ระบบลงทะเบียน RFID หรือ NFC เพิ่มประสิทธิภาพในการลงทะเบียน

ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวล้ำอย่างรวดเร็ว ระบบลงทะเบียน RFID หรือ NFC ได้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดการ และติดตามข้อมูล การใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยลดเวลา และทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบลงทะเบียน RFID หรือ NFC

การทำงานของระบบลงทะเบียน RFID และ NFC

RFID (Radio-Frequency Identification) และ NFC (Near Field Communication) เมื่อมีความต้องการในการลงทะเบียน แท็ก RFID หรืออุปกรณ์ NFC จะถูกนำเข้าสู่ระบบ ข้อมูลที่จัดเก็บในแท็กนี้สามารถรวบรวมได้หลายประการ เช่น ข้อมูลบุคคล, ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือข้อมูลการเข้าถึงระบบ

การใช้เทคโนโลยีแบบ RFID ทำให้การจัดการข้อมูลลงทะเบียนเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยการใช้ตัวติดตาม RFID tags ที่สามารถอ่านได้แบบไร้สาย ข้อมูลสามารถถูกบันทึก และอัพเดตได้ทันทีโดยไม่ต้องมีกระบวนการทางกายภาพที่ซับซ้อน นอกจากนี้ความสามารถในการอ่านข้อมูลได้หลายชุดพร้อมๆ กันทำให้เป็นทางเลือกที่ดีในสถานการณ์ที่ต้องการการจัดการข้อมูลลงทะเบียนจำนวนมาก ส่วนใหญ่ในการจัดงาน ผู้จัดงานจะใช้ RFID ในรูปแบบ Wristband 

ส่วนการใช้เทคโนโลยีแบบ NFC นั้นเน้นไปที่ความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ที่เหมาะสม โดยทำให้กระบวนการลงทะเบียนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสะดวกสบาย ข้อมูลจะบันทึกได้ทันที ผู้จัดงานจะใช้ ระบบ NFC ในรูปแบบ Card

การนำเทคโนโลยี RFID Wristband และ NFC Card เข้าสู่กระบวนการลงทะเบียนไม่เพียงแต่ช่วยลดเวลา และลดความยุ่งยาก แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจในการจัดเก็บข้อมูล การลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในกระบวนการลงทะเบียนจะช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรมและการให้บริการต่อลูกค้า

RFID Wristband หรือ NFC Card ใช้งานในกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ

ระบบลงทะเบียนด้วย RFID Wristband หรือ NFC Card มีการใช้งานหลากหลายในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานแสดงสินค้า, งานอีเว้นท์, งานคอนเสิร์ต หรือแม้กระทั่งงานเทศกาลดนตรี โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถลงทะเบียน และเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ด้วยการสแกน RFID Wristband หรือ NFC Card ที่ถืออยู่

ประโยชน์ของระบบลงทะเบียน RFID Wristband และ NFC Card

  1. ลดเวลาและค่าใช้จ่าย

การใช้ RFID Wristband หรือ NFC Card ช่วยลดเวลาในกระบวนการลงทะเบียนและติดตาม ทำให้ลูกค้า และธุรกิจประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

  1. ความถูกต้องและเป็นไปตามมาตรฐาน

เทคโนโลยีนี้ช่วยลดข้อผิดพลาดในกระบวนการลงทะเบียน, ทำให้ข้อมูลที่ได้มีความถูกต้องและเป็นไปตามมาตรฐาน

  1. การติดตามและการควบคุมการเข้าถึง

ระบบสามารถติดตามตำแหน่งและเครื่องมือที่ลงทะเบียนไว้ และมีความสามารถในการควบคุมการเข้าถึงที่อยู่ในขณะที่ลงทะเบียน

  1. ความปลอดภัย

การใช้เทคโนโลยีที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยช่วยป้องกันการปลอมแปลงและการใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

การใช้ RFID Wristband หรือ NFC Card ในการจัดการข้อมูลลงทะเบียนสามารถทำได้ตามขั้นตอน ดังนี้

  1. สร้างแท็ก RFID Wristband หรือ NFC Card

ผู้เข้าร่วมงานทำการลงทะเบียนผ่านเว็ปไซต์หรือช่องทางต่าง ๆ เพื่อใช้ในการระบุตัวตนของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

  • ระบบจะผูกข้อมูลลงใน RFID Wristband หรือ NFC Card

ระบบจะผูกข้อมูลที่ต้องการเก็บลงใน RFID Wristband หรือ NFC Card เช่น ชื่อ – นามสกุล, หมายเลขสมาชิก เป็นต้น

  • ใช้เครื่องอ่าน RFID Wristband หรือ NFC Card

ในกระบวนการลงทะเบียนนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำ RFID Wristband หรือ NFC Card แตะที่เครื่องเพื่ออ่านข้อมูล

  • ตรวจสอบและอนุมัติ

ผู้ดูแลระบบตรวจสอบข้อมูลที่ถูกบันทึก และดำเนินการอนุมัติการลงทะเบียน

  • ยืนยันการลงทะเบียน

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับการยืนยันลงทะเบียนหลังจากผ่านกระบวนการอนุมัติ.

การใช้ RFID Wristband หรือ NFC Card ในการจัดการข้อมูลลงทะเบียนช่วยให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องใช้กระบวนการทาบทาม หรือการกรอกข้อมูลด้วยมือในระดับที่สูง

หากคุณต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ –> https://vveedigital.com หรือติดต่อเรา คลิกที่นี่

สรุป

ในบริบทที่เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการจัดการและให้บริการกิจกรรมต่าง ๆ การลงทะเบียนที่มีความสะดวกสบายและทันสมัยกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปรับใช้การเข้าร่วมกิจกรรมของผู้คนในยุคดิจิทัล การใช้ระบบลงทะเบียนด้วย RFID Wristband หรือ NFC Card นับเป็นนวัตกรรมที่สามารถปรับใช้ได้ในหลายสาขาอุตสาหกรรม ทั้งในด้านธุรกิจ, สันทนาการ, และกิจกรรมทางการศึกษา ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการและบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและน่าสะดวกสบาย เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถปรับใช้กับทุกรูปแบบและขนาดของกิจกรรมที่ต้องการการจัดการที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย

การใช้เทคโนโลยี RFID หรือ NFC ในระบบลงทะเบียนไม่เพียงทำให้กระบวนการนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่ทันสมัยและทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกสะดวกสบาย ทั้งนี้ยังเป็นการลดการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติและส่งเสริมให้กับกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อม กับการทำให้การลงทะเบียนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน

ลงทะเบียนด้วย Qr Code ที่ผู้จัดกำลังมองหา

ลงทะเบียนด้วย QR Code เป็นหนึ่งในวิธีที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้กระบวนการลงทะเบียนกลายเป็นง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น วิธีการใช้ QR Code ในการลงทะเบียนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนเข้างาน, งานประชุม หรือแม้กระทั่งการลงทะเบียนการรับบริการต่าง ๆ ที่ต้องการการบันทึกข้อมูลผู้ใช้ ลงทะเบียนด้วย QR Code ได้เข้ามาเป็นตัวช่วยที่สำคัญในปัจจุบัน.

ลงทะเบียนด้วย QR Code

ระบบลงทะเบียนด้วย QR Code คืออะไร

ระบบที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยการสแกน QR code ที่มีอยู่ในระบบ หรือบนเอกสาร หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้น ๆ โดยผู้ใช้สามารถสแกน QR code ด้วยโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี QR code นั้น ๆ แล้วระบบจะทำการลงทะเบียนอัตโนมัติ หรือนำข้อมูลเข้าสู่ระบบตามที่ได้รับการกำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้กระบวนการลงทะเบียนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้งาน

ระบบลงทะเบียนด้วย Qr code เป็นวิธีที่สะดวก และรวดเร็วสำหรับผู้เข้าร่วมงาน ผู้จัดงานสามารถทำการสร้างรหัส QR Code ที่เกี่ยวข้องกับงนที่จัด รวมถึงข้อมูลลงทะเบียนของผู้เข้าร่วมแต่ละคน เช่น ชื่อ, ที่อยู่อีเมล, หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สำคัญ เมื่อผู้เข้าร่วมงานมีความต้องการลงทะเบียนในงาน ก็สามารถสแกนหรือถ่ายรูป QR Code ด้วยแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทำให้ข้อมูลลงทะเบียนถูกนำเข้าอย่างรวดเร็ว ลดเวลาและความยุ่งยากในกระบวนการลงทะเบียนที่ใช้เอกสารแบบปกติ

ทั้งนี้ระบบนี้ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถติดตามจำนวนผู้เข้าร่วมงานได้ง่ายขึ้น และยังมีข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อการจัดการงานอีเว้นท์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทำไมต้องลงทะเบียนด้วย Qr code ในงานอีเว้นท์

การลงทะเบียนด้วย QR Code ในงานอีเว้นท์มีข้อได้เปรียบมากมายที่ทำให้เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจัดการกับผู้เข้าร่วมงาน:

1.ความรวดเร็วและสะดวก

QR Code ทำให้กระบวนการลงทะเบียนเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว เพียงแค่สแกน QR Code ด้วยสมาร์ทโฟน ผู้เข้าร่วมงานสามารถกรอกข้อมูลและลงทะเบียนได้อย่างรวดเร็วทันในที่ทำงาน

2.ลดความผิดพลาด

การลงทะเบียนด้วย QR Code ลดความผิดพลาดที่เกิดจากระบบลงทะเบียนด้วยกระดาษที่อาจมีการกรอกข้อมูลผิดพลาดได้ เนื่องจากข้อมูลจะถูกนำเข้าโดยอัตโนมัติจากรหัส QR Code

3.การติดตามข้อมูลได้ง่าย

ระบบลงทะเบียนด้วย QR Code ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมงานได้อย่างสะดวก เช่น จำนวนคนที่ลงทะเบียน ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

QR Code ในงานอีเว้นท์ สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง

  1. เข้าชมบูธและสถานที่ต่าง ๆ

ผู้เข้าร่วมงานสามารถใช้ QR Code เพื่อเข้าชมบูธและสถานที่ต่าง ๆ ในงาน โดยเพียงแค่สแกน QR Code ที่ได้รับ เป็นทางเข้าที่สะดวกและทันสมัย

  1. รับข้อมูลและอัพเดทงาน

QR Code ที่เชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์งานอีเว้นท์ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ และรับข้อมูลทันที

  1. ระบุตัวตนและความปลอดภัย

การใช้ QR Code ในการระบุตัวตนช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัย โดยทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบการเข้าร่วมงานและควบคุมการเข้าถึงบริเวณต่าง ๆ ในงาน

  1. แบ่งปันข้อมูลและเครือข่าย

QR Code ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวและติดต่อกับคนในงานได้โดยง่าย สร้างโอกาสในการเครือข่ายและสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้เข้าร่วมงานที่มีความสนใจที่เกี่ยวข้อง

  1. การสะท้อนแบรนด์และการตลาด

QR Code ที่ใช้ในงานอีเว้นท์สามารถนำไปสะท้อนแบรนด์และการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เข้าร่วมงานสามารถสแกน QR Code เพื่อเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่ได้รับการโปรโมทในงาน

  1. การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์

ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากการลงทะเบียนด้วย QR Code สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์และประเมินผลงานได้ เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมงานในแต่ละช่วงเวลา ข้อมูลที่ได้รับความนิยม และข้อมูลสถิติอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงงานในครั้งถัดไป

  1. การลดใช้กระดาษและร่วมรายละเอียด

การใช้ QR Code ช่วยลดการใช้กระดาษในกระบวนการลงทะเบียน ไม่เพียงทำให้กระบวนการนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยลดความซับซ้อนและเวลาที่ใช้ในการจัดเก็บและรวมรวมข้อมูล

ขั้นตอนง่าย ๆ ในการลงทะเบียนด้วย QR Code

การลงทะเบียนด้วย QR Code ได้เป็นทางเลือกที่สะดวก และรวดเร็วสำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมหรือบริการต่าง ๆ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน ด้วยความสามารถในการสแกน QR Code ผ่านมือถือ หรืออุปกรณ์ที่รองรับ ขั้นตอนการใช้งานการลงทะเบียนด้วย QR Code ง่าย ๆ มีดังนี้

  1. สแกน QR Code

ผู้ใช้งานทำการใช้กล้องของมือถือสแกน QR Code ที่ได้แสดงบนแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกับ QR Code จะถูกเปิดอัตโนมัติ

  1. กรอกข้อมูลเพิ่มเติม (ตามที่จำเป็น)

ผู้ใช้งานต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับการลงทะเบียน เช่น ชื่อ – นามสกุล , เบอร์โทร ข้อมูลจะถูกจัดเก็บในระบบ

  1. ยืนยันการลงทะเบียน

ระบบทำการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับและทำการยืนยันการลงทะเบียน ผู้ใช้งานจะได้รับการแจ้งเตือนหรือหน้าจอยืนยัน.

การลงทะเบียนด้วย QR Code ทำให้กระบวนการเข้าร่วมกิจกรรม เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนและรวดเร็ว ผู้ใช้งานสามารถทำรายการด้วยคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง ทำให้มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายมากขึ้น

สรุป

การใช้ระบบลงทะเบียนด้วย QR Code ในงานอีเว้นท์ไม่เพียงแค่ทำให้กระบวนการงานดูมีระเบียบและสะดวกสบาย เเต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมงาน เพื่อนำไปสู่การจัดงานที่ทันสมัย สร้างความประทับใจ และสร้างความต่อเนื่องในการจัดงานในอนาคต

ระบบลงทะเบียนด้วย QR Code เป็นนวัตกรรมที่ทำให้กระบวนการลงทะเบียนเป็นเรื่องที่ง่าย, รวดเร็ว และประหยัดเวลา มีประโยชน์มากมายทั้งในการจัดการกิจกรรม, งานอีเว้นท์ หรือแม้กระทั่งในการเข้ารับบริการต่าง ๆ ที่ต้องการข้อมูลการลงทะเบียน ด้วยความสามารถในการลดความผิดพลาด และป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล ระบบนี้เติบโตเป็นที่นิยมในการใช้งานทั่วไป

หากคุณต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ –> https://vveedigital.com หรือติดต่อเรา คลิกที่นี่

ระบบลงทะเบียน ในงานอีเว้นท์

ระบบลงทะเบียน ไม่เพียงแค่การทำให้กระบวนการลงทะเบียนง่ายขึ้น เเต่ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงประสบการณ์ทั้งของผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมอีเว้นท์ เทคโนโลยีที่ใช้ในระบบลงทะเบียนจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้งานอีเว้นท์เป็นที่จดจำและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

ระบบลงทะเบียน ในงานอีเว้นท์

ระบบลงทะเบียนคืออะไร

ระบบลงทะเบียน มีบทบาทที่สำคัญในทุกสายงาน และกิจกรรมต่าง ๆ  ในปัจจุบันการจัดงานอีเว้นท์กลับมามีความนิยมมากขึ้น และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบลงทะเบียนกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้งานอีเว้นท์นี้มีความสมบูรณ์ และน่าจดจำมากขึ้น ระบบลงทะเบียนไม่เพียงแค่เป็นกระบวนการที่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนด้วยตัวเองได้อย่างสะดวก และยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้งานอีเว้นท์มีความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ระบบลงทะเบียนไม่เพียงแค่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานลงทะเบียนได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังต้องสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำที่ดีให้กับผู้เข้าร่วมงาน สามารถทำได้โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการลงทะเบียน เช่นการสแกน QR Code หรือการให้ข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ที่ทำให้การลงทะเบียนไม่เพียงแค่เป็นกระบวนการที่ต้องทำ แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างประสบการณ์ที่น่าทึ่งให้กับผู้จัดงานอีกด้วย

ทำไมผู้จัดงานถึงต้องใช้ระบบลงทะเบียน

ระบบลงทะเบียน เป็นการจัดงานและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มักมีความซับซ้อน และยุ่งเหยิงที่ผู้จัดงานต้องเจอ เพื่อให้ทุกสิ่งเป็นไปได้ตามที่วางแผนไว้ คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดงานคือ ระบบลงทะเบียน ซึ่งมีความสำคัญมากในการทำให้งานเป็นไปได้ได้ตามเป้าหมาย ทำให้ระบบลงทะเบียนกลายเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการและบันทึกข้อมูลต่างๆ ด้านต่างๆ ดังนี้

  • ความเรียบง่ายและรวดเร็ว การใช้ระบบลงทะเบียนช่วยลดภาระงานที่ต้องทำด้วยมือ ทำให้กระบวนการลงทะเบียนเป็นไปได้โดยรวดเร็วและมีความเรียบง่ายมากขึ้น ทั้งนี้เพราะระบบสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ลดความผิดพลาดที่เป็นไปได้ในกระบวนการลงทะเบียนลงมาได้มาก
  • บันทึกข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นระบบ ระบบลงทะเบียนช่วยในการบันทึกข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบุคคล หรือกิจกรรมต่างๆ โดยที่ไม่มีความสับสนหรือข้อมูลที่สูญหายไป ทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างเป็นระบบ และมีความเป็นประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ป้องกันการปลอมแปลงและความปลอดภัย การใช้ระบบลงทะเบียนช่วยลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงข้อมูล และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่สำคัญ ทำให้เจ้าของข้อมูลมีความมั่นใจในการให้ข้อมูล และเข้าถึงข้อมูลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
  • การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล ระบบลงทะเบียนทำให้การติดตาม และวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปได้ง่ายขึ้น ผู้ดูแลระบบสามารถรวบรวมข้อมูลที่สำคัญได้ทันที และนำเสนอข้อมูลที่วิเคราะห์ไว้ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
  • การประหยัดทรัพยากร การใช้ระบบลงทะเบียนช่วยลดการใช้กระดาษ และทรัพยากรทางธรรมชาติอื่นๆ ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรและสร้างผลกระทบที่น้อยลงต่อสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น ระบบลงทะเบียนไม่เพียงแค่เป็นเครื่องมือสำหรับบันทึกข้อมูลเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำให้กระบวนการต่างๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความเป็นระบบ เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือในทุกๆ ด้านที่ใช้งาน

ข้อดีที่ผู้จัดงานเลือกใช้ระบบลงทะเบียน

การใช้ ระบบลงทะเบียน ไม่เพียงแค่เป็นการบันทึกข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมายที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และสะดวกสบายในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

  • ประหยัดเวลาและทรัพยากร

การใช้ระบบลงทะเบียน ช่วยลดเวลาในกระบวนการลงทะเบียน เนื่องจากทำงานได้เร็ว และอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้เวลามากในการกรอกข้อมูลด้วยมือหรือทำกระบวนการอื่นที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ

  • ความแม่นยำและความเท่าเทียม

ระบบลงทะเบียนช่วยลดความผิดพลาดที่เป็นไปได้ในกระบวนการลงทะเบียน ทำให้ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างความเท่าเทียมในการจัดการกิจกรรมต่างๆ ที่มีผู้ลงทะเบียนมาเข้าร่วม

  • การบริหารจัดการที่เชื่อถือได้

การใช้ระบบลงทะเบียน ช่วยสร้างความเชื่อถือในการบริหารจัดการกิจกรรม ทั้งนี้เพราะข้อมูลที่ได้มีความปลอดภัยและถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้ใช้และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความมั่นใจในข้อมูลที่ได้

  • การสร้างประสบการณ์ที่ดี

ระบบลงทะเบียนช่วยในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ ทั้งในการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมหรืองานต่างๆ โดยที่ไม่ต้องพบกับปัญหาทางการทำกระบวนการลงทะเบียน

  • การทำงานร่วมกันและการสื่อสารที่ดีขึ้น

ระบบลงทะเบียนช่วยในการสร้างพื้นที่ทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ โดยที่ผู้ใช้สามารถสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของระบบลงทะเบียน

ระบบลงทะเบียนมีหลายประเภทตามลักษณะ และวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ดังนี้

1. ระบบลงทะเบียนออนไลน์

ใช้ทางอินเทอร์เน็ตในการลงทะเบียนโดยผู้ใช้สามารถทำการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เพิ่มความสะดวกและทำให้สามารถลงทะเบียนได้ทุกที่ทุกเวลา

2. ระบบลงทะเบียนในบริษัทหรือองค์กร

ใช้ในบริษัทหรือองค์กรเพื่อลงทะเบียนข้อมูลพนักงาน,ลูกค้า หรือผู้เข้าร่วมกิจกรรม ช่วยในการจัดการข้อมูลของบุคคลภายในองค์กรอย่างมีระเบียบและมีประสิทธิภาพ

3. ระบบลงทะเบียนเหตุการณ์หรือสัมมนา

ใช้ในการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงาน,ประชุม หรือสัมมนา ช่วยในการวางแผน และจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ระบบลงทะเบียนการศึกษา

ใช้ในการลงทะเบียนนักเรียนหรือนักศึกษาในสถาบันการศึกษา ช่วยในการจัดการข้อมูลการศึกษา และติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนหรือนักศึกษา

5. ระบบลงทะเบียนสินค้า

ใช้ในการลงทะเบียนสินค้าหรือบริการ ช่วยในการจัดการข้อมูลลูกค้าและการตลาด

6. ระบบลงทะเบียนการแพทย์

ใช้ในโรงพยาบาลหรือสถานที่ดูแลสุขภาพเพื่อลงทะเบียนผู้รับบริการทางการแพทย์ ช่วยในการบันทึกประวัติแพทย์ และการนัดหมาย

7. ระบบลงทะเบียนการแข่งขัน

ใช้ในการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมการแข่งขันทางกีฬาหรือศิลปะ ช่วยในการจัดการข้อมูลผู้เข้าร่วมแข่งขัน และการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวกับการแข่งขัน

การเลือกระบบลงทะเบียนที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และความต้องการของกิจกรรมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การจัดการ และใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่นของระบบลงทะเบียนทำให้เข้ากับทุกรูปแบบของการใช้งานตามความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์

การจัดเตรียมความพร้อมเมื่อใช้งานระบบลงทะเบียน

การสร้างระบบลงทะเบียนที่ดี ให้เป็นส่วนหนึ่งในงานอีเว้นท์ที่น่าจดจำ เป็นกระบวนการที่สำคัญในหลายๆ รูปแบบ เช่น การลงทะเบียนเพื่อใช้บริการออนไลน์, การสมัครงาน หรือแม้กระทั่งการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานสัมมนา การจัดเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้าใช้ระบบลงทะเบียนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการเหล่านี้เป็นไปได้ด้วยคราว ๆ ตามที่ต้องการ นี้คือขั้นตอน และวิธีการที่สามารถช่วยในการจัดเตรียมความพร้อม เพื่อการลงทะเบียนอย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ทราบข้อมูลการลงทะเบียน

ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการลงทะเบียน ควรทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนนั้น ๆ ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานไปจนถึงเอกสาร หรือข้อมูลที่ต้องการในการกรอกลงทะเบียน เช่น รหัสผู้ใช้, รหัสผ่าน หรือเอกสารประกอบต่าง ๆ

  • ตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบ

ก่อนที่จะลงทะเบียน ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบที่ใช้งาน เช่น ระบบเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน หรือระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยตรวจสอบว่าระบบทำงานได้อย่างถูกต้อง และไม่มีปัญหาทางเทคนิค

  • สร้างบัญชีผู้ใช้ (ถ้าต้องการ)

หากมีความจำเป็นในการสร้างบัญชีผู้ใช้ ควรทำการสร้างบัญชีล่วงหน้า เพื่อลดเวลาในขั้นตอนการลงทะเบียนเอง และต้องจดจำข้อมูลเข้าสู่ระบบให้ดี

  • เตรียมเอกสารที่ต้องใช้

หากมีเอกสาร หรือข้อมูลที่ต้องใช้ในกระบวนการลงทะเบียน ควรเตรียมล่วงหน้า เพื่อป้องกันการหยุดกระบวนการลงทะเบียนเนื่องจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง

  • ทดสอบระบบ

การทดสอบระบบก่อนการลงทะเบียน จะช่วยในการตรวจสอบว่าระบบทำงานได้ถูกต้อง และไม่มีปัญหา เช่น การทดสอบการกรอกแบบฟอร์ม, การส่งข้อมูล หรือการตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูล

  • ติดตามขั้นตอนการลงทะเบียน

ละเมิดขั้นตอนการลงทะเบียนอาจทำให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือไม่สมบูรณ์ ดังนั้น ควรติดตามขั้นตอนทุกขั้นตอนอย่างรอบคอบ และถูกต้อง

  • รักษาข้อมูลการลงทะเบียน

หลังจากการลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์ ควรรักษาข้อมูลการลงทะเบียนอย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือการเข้าถึงไม่ถูกต้องจากบุคคลที่ไม่พึงประสงค์

การจัดเตรียมความพร้อมเมื่อใช้งานระบบลงทะเบียน

การสร้างระบบลงทะเบียนที่ดี ให้เป็นส่วนหนึ่งในงานอีเว้นท์ที่น่าจดจำ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ความพร้อมก่อนการลงทะเบียน เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น และประสานไปกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานระบบต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การลงทะเบียนเป็นประสบการณ์ที่ดีและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น นอกจากขั้นตอนที่ได้กล่าวถึงข้างต้น ยังมีขั้นตอนอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มความพร้อมในการลงทะเบียนได้อีก

  1. อัพเดตโปรแกรมและเบราว์เซอร์ : การใช้งานระบบลงทะเบียนบางรายการอาจต้องการการอัพเดตโปรแกรม หรือเบราว์เซอร์ เพื่อให้ระบบทำงานได้ดีที่สุด ควรตรวจสอบ และอัพเดตโปรแกรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน
  2. ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : การศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการลงทะเบียน, นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือคำแนะนำที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการนั้น ๆ
  3. ติดต่อสนับสนุน : หากมีคำถามหรือปัญหาในขั้นตอนการลงทะเบียน ควรติดต่อสนับสนุนที่ระบบมีให้ เพื่อให้ได้คำแนะนำหรือความช่วยเหลือทันที
  4. สำรองข้อมูล : ก่อนการกดยืนยันการลงทะเบียน ควรทำการสำรองข้อมูลที่สำคัญ เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลที่สำคัญในกรณีที่เกิดปัญหา
  5. ทดสอบการเข้าถึง : หากเป็นไปได้ ควรทดสอบการเข้าถึงข้อมูลหลังจากการลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบว่าทุกอย่างทำงานได้ถูกต้อง

การจัดเตรียมความพร้อมก่อนการลงทะเบียนไม่เพียงแต่ทำให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ยังช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง ด้วยการทำความเข้าใจ และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การลงทะเบียนที่เตรียมไว้ทุกประการได้ในที่สุด

หากคุณต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ –> https://vveedigital.com หรือติดต่อเรา คลิกที่นี่

สรุป

การสร้างระบบลงทะเบียนที่ดี ให้เป็นส่วนหนึ่งในงานอีเว้นท์ที่น่าจดจำ จะเน้นที่การใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงานอีเว้นท์ ด้วยข้อความสำคัญต่าง ๆ ที่เน้นไปที่ความรวดเร็ว การปรับแต่ง ความปลอดภัย การช่วยเหลือ และการวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้ระบบลงทะเบียนไม่เพียงเป็นเครื่องมือที่ทำให้การจัดงานเป็นไปได้ด้วยสะดวกและต่อเร็วเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถปรับปรุง และพัฒนางานในอนาคตได้ด้วยข้อมูลที่มีคุณค่า

การใช้เทคโนโลยีในระบบลงทะเบียนไม่เพียงแค่การอัพเกรดกระบวนการทำงาน แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่ในการสื่อสารระหว่างผู้จัดงาน และผู้เข้าร่วมงาน ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีโอกาส และสิทธิ์ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อมูล ทั้งยังเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการเข้าร่วมงานอีเว้นท์

ระบบลงทะเบียนที่เน้นความรวดเร็ว และอัตโนมัติทำให้ผู้จัดงานสามารถลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และผู้เข้าร่วมสามารถลงทะเบียนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคอยนานนาน การปรับแต่งแบบฟอร์มทำให้ระบบสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความต้องการ และความสะดวกของทั้งสองฝ่าย

ความปลอดภัยของข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก ระบบลงทะเบียนที่สามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมงานจะเพิ่มความไว้วางใจ และความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย

การให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนตลอดทั้งกระบวนการทำให้ทั้งผู้จัดงาน และผู้เข้าร่วมสามารถติดต่อ และแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความมั่นใจว่าคำถามหรือปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขทันที

การวิเคราะห์ข้อมูลที่ระบบนี้ สามารถช่วยให้ผู้จัดงานมีข้อมูลที่มีประโยชน์ในการวางแผนอีเว้นท์ในอนาคต และปรับปรุงด้วยการพัฒนาต่อยอด

ดังนั้น การสร้างระบบลงทะเบียนในงานอีเว้นท์ที่น่าจดจำไม่เพียงแค่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการทางการองค์กร แต่ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ที่มีความคุ้มค่าและประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับทุกคนที่เข้าร่วมอีเว้นท์.

วิธีจัดการ เริ่มต้นการขายอีเว้นท์ ที่ประสบความสำเร็จสำหรับองค์กรของคุณ

เริ่มต้นการขายอีเว้นท์ ถึงเวลานั้นของปีอีกครั้งที่คุณ จะได้ไตร่ตรองถึงสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างธุรกิจของคุณใหม่หลังโควิด หรือการขยายฐานลูกค้า ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ การมองย้อนกลับไปถึงชัยชนะและการรับรู้ถึงการแพ้ ทำให้คุณสามารถตั้งเวทีสำหรับกลยุทธ์ ใหม่ที่สดใสเมื่อคุณส่งเสียงดังในปีใหม่

แต่สิ่งที่มีผลกระทบมากที่สุดที่คุณสามารถ ทำได้เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจ ใหม่จะประสบความสำเร็จ? – ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ทีมขายของคุณลงทุนอย่างเต็มที่ ในวิสัยทัศน์ด้วยกิจกรรม เริ่มต้นการขาย ไม่ว่าตัวแทนจะทำผลงานได้ดีในปี 2022 หรือทำได้ไม่ตรงตามเป้าหมายมากนัก สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นปี 2023 อย่างกระตือรือร้น มีแรงจูงใจ และพร้อมที่จะขาย

กับองค์กรมากขึ้น โอบรับการทำงานแบบไฮบริด และการประชุมเสมือนจริง การทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณทำงานในระดับโลก แต่ด้วยการตั้งค่าที่เหมาะสม สำหรับการประชุมเริ่มต้นการขาย คุณจะมั่นใจได้ว่าพนักงานขายของคุณ จะมีส่วนร่วม และได้รับแรงบันดาลใจ

ในโพสต์นี้ เราจะวางพิมพ์เขียวสำหรับการเริ่มการขายที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะทำให้องค์กรของคุณพร้อมสำหรับความสำเร็จ อ่านเคล็ดลับ กลเม็ด และแนวคิดนอกกรอบเพื่อ มีส่วนร่วมกับทีมของคุณและเริ่มต้นปี 2023 ให้ดี

การขายเริ่มต้น (SKO) คืออะไร?

การเริ่มต้นการขายคือกิจกรรมประจำปีที่มักจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี ปฏิทินเพื่อเปิดตัวทีมขายของคุณในปีหน้า เป็นเวทีสำคัญในการเฉลิมฉลองความสำเร็จ ตั้งเป้าหมาย และสร้างความสนิทสนมกัน (และการแข่งขันที่ดี) ระหว่างทีมของคุณ

SKO ของคุณอาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่เซสชัน ครึ่งวันไปจนถึงกิจกรรมการประชุมหลายวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กรของคุณ และแม้ว่าบางครั้งการขอบายอินให้ทีมงาน เลิกใช้โทรศัพท์ในช่วงเวลานั้น อาจเป็นเรื่องยาก แต่ผลกระทบของ SKO ที่วางแผนไว้อย่างดีก็มากเกินต้นทุน

เหตุใดการเริ่มการขายจึงมีความสำคัญ

กิจกรรมเริ่มต้นการขายเป็นกิจกรรมที่ดีที่สุด และมักจะเป็นโอกาสเดียว ที่คุณจะต้องนำทีมทั้งหมดมารวมตัวกันเพื่อการศึกษา การฝึกอบรม และการสร้างแรงจูงใจ หากบริษัทของคุณไปได้ดี พนักงานขายของคุณจะพึงพอใจได้ง่าย หากคุณมีปีที่ยากลำบาก อาจเป็นเรื่องยากที่จะกระตุ้น ทีมของคุณให้หลุดพ้นจากความย่ำแย่ ในทั้งสองกรณี กิจกรรมเริ่มต้นการขาย เป็นโอกาสของคุณในการรวมตัวแทนเพื่อเฉลิมฉลองการแสดงที่โดดเด่น กำหนดกลยุทธ์ใหม่ และกระตุ้นทีมขายด้วยแรงจูงใจที่พวกเขาต้องการ

สิ่งที่จะรวมไว้ในการประชุมเริ่มต้นการขายที่ประสบความสำเร็จ

หากคุณมีทีมงานระดับโลก การเริ่มการขายในปี 2023 ของคุณน่าจะเกิดขึ้นในฐานะเหตุการณ์ไฮบริด. เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและลดความเหนื่อยล้าในการประชุม คุณต้องคำนึงถึงทั้งผู้ชมในสถานที่และผู้ชมเสมือนเมื่อวางแผน SKO ของคุณ

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับยอดนิยม บางส่วนของเราเกี่ยวกับ สิ่งที่ควรรวมไว้ในการเริ่มต้นการขาย ที่ประสบความสำเร็จ

1. ฉลองชัยชนะของคุณ

รับพลังงานที่ไหลเวียนและปลุกห้องด้วยการเริ่มต้น SKO ของคุณด้วยการเฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญและความสำเร็จของปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทีมระดับภูมิภาค ที่ทำลายเป้าหมายของพวกเขาหรือตัวแทนแต่ละคนที่ได้ลูกค้าใหม่ที่มีคุณค่า ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องประกาศเกียรติคุณ และให้รางวัลแก่ผู้ปฏิบัติงานชั้นนำ

พนักงานขายส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จ จากการยอมรับและการแข่งขัน ดังนั้น SKO ของคุณจึงเป็นโอกาสที่ดีในการให้รางวัลแก่พนักงานที่มีผลงานดีที่สุด และให้แรงจูงใจแก่พนักงานขายที่ประสบปัญหา

สร้างได้มากมายเวลาเครือข่ายที่มีโครงสร้าง สำหรับตัวแทนเพื่อแลกเปลี่ยนเคล็ดลับและกลยุทธ์ อาจเป็นอาหารกลางวันแบบตัวต่อตัวหรือในห้องกลุ่มย่อยเสมือนจริง เริ่มต้นการขายอีเว้นท์

เคล็ดลับ : หากใช้ห้องกลุ่มย่อยออนไลน์ ให้พิจารณาตั้งข้อความเตือน หรืองานให้แต่ละกลุ่มพูดคุย เช่น ‘อธิบายการลดราคาที่คุณภาคภูมิใจที่สุดในปี 2022’ ในบางครั้ง การทำให้การสนทนาดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติผ่านหน้าจออาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นข้อความแจ้งที่ใช้ร่วมกันจะช่วยส่งเสริมการสนทนาและทำให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามแผน

2. ทำให้สิ่งต่าง ๆ มีส่วนร่วม

ไม่ว่าจะเป็นนอกสถานที่ ออนไลน์ หรือทั้งสองอย่างผสมกัน SKO ของคุณต้องทำให้ทีมขายมีแรงบันดาลใจและแรงกระตุ้นตลอด แน่นอนว่าพูดง่ายกว่าทำ ความสนใจของผู้เข้าร่วมอาจคลาดเคลื่อนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขากำลังปรับจูนผ่านหน้าจอ

ควบคุมความสามารถในการแข่งขันที่มีมาแต่กำเนิดของพนักงานขายของคุณโดยการผสมผสานองค์ประกอบของการเล่นเกมลงในกำหนดการของคุณ เช่น แบบทดสอบป๊อปและลีดเดอร์บอร์ดสด

ให้ผู้เข้าร่วมประชุมรู้ว่าคุณให้ความสำคัญกับเวลาและความคิดเห็นของพวกเขาด้วยการทำแบบสำรวจแบบ ‘ชีพจร’ เป็นประจำเพื่อให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นยกนิ้วขึ้นหรือยกนิ้วลงทันทีในสิ่งที่นำเสนอ

และเหนือสิ่งอื่นใด ให้นำเสนออย่างมีผลกระทบและตรงประเด็น เน้นตัวเลขสำคัญ เน้นข้อความทางการตลาดใหม่ และแสดงให้ตัวแทนของคุณเห็นงานวิจัยที่พิสูจน์ว่ากลยุทธ์ใหม่เหล่านี้จะได้ผลสำหรับพวกเขา

3. วางแผนเนื้อหาของคุณอย่างรอบคอบ

เป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะจดจ่ออยู่กับชุดสไลด์และสเปรดชีตหลายชั่วโมง ไม่ว่าข้อมูลภายในจะน่าสนใจเพียงใด

การเริ่มต้นการขายของคุณควรเป็นโอกาสสำหรับการแสดงละครและการแสดง ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชมของคุณประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในศิลปะในการดึงดูดความสนใจของใครบางคน วิธีที่ดีในการดึงดูดผู้ฟังคือการนำวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นคนในองค์กรของคุณ (เช่น หัวหน้าอาวุโส) หรือแขกรับเชิญจากภายนอก เลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประวัติที่พิสูจน์ได้ว่าตัวแทนฝ่ายขายของคุณชอบที่จะเลียนแบบ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสร้างเวลาสำหรับการถามตอบ

แม้ว่างานของคุณจะถูกจัดขึ้นแบบเสมือนจริง แต่วิทยากรผู้เชี่ยวชาญก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดความสนใจของทีมและยกระดับงานของคุณให้เหนือกว่าการประชุมประจำวัน

และแน่นอน ให้ผู้ชมนึกถึงทุกการตัดสินใจเกี่ยวกับวาระการประชุมของคุณ มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการขายให้ความสำคัญ ได้แก่ ค่าตอบแทน การกำหนดราคา คู่แข่ง และการอัปเดตผลิตภัณฑ์ใหม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทีมของคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลประเภทนั้น ในปีหน้าได้โดยการเข้าร่วมของคุณ

หากคุณกำลังจะจัดงานที่อยากใช้ระบบ QR Code ในกิจกรรมการจัดงานของคุณ สามารถ ติดต่อได้ที่ K&O Systems ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำ ระบบ QR Code ในงาน event มาแล้วมากมายอาทิ เช่น ระบบลงทะเบียนเข้างาน QR code จับรางวัล และ อื่นๆ ภายในงาน อีเว้นท์ และ งานแสดงสินค้าเข้าไปดูผลงานได้ที่นี่  Vveedigitalและสอบถามได้ที่เบอร์ 082-645-4469

5 สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ แอปกิจกรรมในปี 2023 และหลังจากนั้น

แอปกิจกรรมในปี 2023 แอพกิจกรรมบนมือถือเติบโตขึ้น อย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา  เนื่องจากเทคโนโลยีการจัดงานมีการพัฒนาขึ้น จึงมีข้อ เสนอและ ประสบการณ์เกี่ยวกับ แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เครื่องมืออันทรงพลังนี้ เชื่อมช่องว่างระหว่าง เสมือนจริงและต่อหน้าเพื่อ มอบประสบการณ์การจัดงานที่เป็นหนึ่งเดียว รวมถึงมอบการปรับปรุง ที่หลากหลายให้กับผู้ชมสดของคุณ เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การจัดงานของพวกเขา 

ดำดิ่งสู่โลกอันยอดเยี่ยม ของแอปกิจกรรมบนมือถือและ5 สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก ผู้ให้บริการแอปของคุณในปี 2023 และปีต่อๆ ไป 

1. การบูรณาการที่ไร้รอยต่อ 

คุณไม่จำเป็นต้องยกเครื่องเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด เพื่อนำแอปกิจกรรมมือถือมาไว้ในงาน ในสถานที่และกิจกรรมแบบไฮบริด! การค้นหาผู้ให้บริการแอพมือถือที่ทำงานได้ดีกับเทคโนโลยีปัจจุบันของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสบการณ์การจัดงานที่ราบรื่น ตั้งแต่การลงทะเบียนไปจนถึงการวิเคราะห์หลังงาน  

ตัวอย่างเช่น แอปมือถือของ Stovaผสานรวมกับแอพ และบริการอื่น ๆซึ่งรวมถึง Salesforce และ Hubspot เพื่อให้คุณสามารถติดตามพฤติกรรม ของผู้เข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ได้ ทำแผนที่ฟิลด์ Salesforce และ Stova เช่น แคมเปญและรายการการตลาด และแบ่งปันเนื้อหา อันมีค่าที่โดนใจผู้เข้าร่วมของคุณ 

2. การจัดการเหตุการณ์แบบครบวงจร

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วม โดยมองหาผู้ให้บริการแอพมือถือที่สามารถนำเสนอโซลูชั่นสำหรับระบบนิเวศกิจกรรม ทั้งหมดของคุณ ด้วยพันธมิตรโซลูชันแบบ all-in-one การเดินทางของผู้เข้าร่วมจะถูกแมปอย่างราบรื่นตั้งแต่การตลาด ก่อนงานไปจนถึงการวิเคราะห์ หลังงานแสดง จากนั้นสามารถทำซ้ำและปรับปรุง สำหรับงานครั้งต่อไปด้วยการสัมผัสปุ่มเพียงปุ่มเดียว 

โบนัส:บรรเทาปัญหาที่พบบ่อย เช่น การแจกจ่ายวัสดุและการชำระเงิน ผู้เข้าร่วมผ่านแอปมือถือของคุณในปี 2566 มองหาผู้ให้บริการโซลูชันที่สร้างแอปกิจกรรม ตามข้อกำหนดของคุณและให้การสนับสนุนตลอด 24/7 ตลอดเส้นทางกิจกรรมของคุณ  

3. จินตนาการถึงประสบการณ์นอกสถานที่

คิดนอกกรอบเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมือถือ นอกสถานที่ ลดความยุ่งยากในสถานที่สำหรับผู้เข้าร่วมของคุณด้วยการเสนอการเช็คอินด้วยตนเอง และ/หรือการติดป้ายดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดมี ตราสินค้าตามข้อกำหนดขององค์กรของคุณ ปรับแต่งสี โลโก้ 

สโลแกน และอื่นๆ ภายในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ของคุณเพื่อสร้างความไว้วางใจ ในแบรนด์ให้กับผู้เข้าร่วมของคุณ  

โบนัส:ด้วยแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีตราสินค้าที่กำหนดเองซึ่งเชื่อมโยงกับป้าย ไม่ว่าจะเป็นแบบดิจิทัลหรือแบบพิมพ์ ผู้แสดงสินค้าและผู้สนับสนุนของคุณได้เพิ่มโอกาสในการเป็นผู้สนับสนุน  

ขับเคลื่อนรายได้ด้วยการดึงข้อมูลตะกั่วแบบไม่ต้องสัมผัสผ่านแอพมือถือในปี 2566 อัปโหลดลีดโดยตรงไปยังระบบ CRM และการตลาดอัตโนมัติที่คุณเลือก และติดตามผลได้อย่างง่ายดาย! 

4. การเล่นเกม

ลีดเดอร์บอร์ด คะแนน ย้อย และอื่นๆ ใช้ประโยชน์ จากพลังและความตื่นเต้นของผู้ชมของคุณ ความท้าทายแบบเกมภายในแอปพลิเคชันมือถือทำให้ผู้เข้าร่วมแบบ ตัวต่อตัวของคุณ กระตือรือร้นกับเทคโนโลยี ยิ่งผู้เข้าร่วมประชุมของคุณใช้แอพมือถือ มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้นเท่านั้น การใช้การเล่นเกม จะเรียนรู้พฤติกรรมของผู้เข้าร่วม กระตุ้นการมีส่วนร่วม กับผู้สนับสนุนและผู้แสดงสินค้า และส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เข้าร่วม แอปกิจกรรมในปี 2023

เมื่อเลือกผู้ให้บริการแอปกิจกรรมสำหรับปี 2023 และปีต่อๆ ไป อย่าลืมถามเกี่ยวกับการทดสอบโหลดและหากมีการสนับสนุนในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดในกิจกรรมของคุณ การมีผู้ให้บริการ แพลตฟอร์มที่ทำงานร่วมกับคุณในทุกขั้นตอนจะเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้หากโชคร้ายเกิดขึ้น 

มีการคิดค้นแอป และเครื่องมือใหม่ๆ ทุกวันเพื่อช่วยให้งาน ของคุณยอดเยี่ยมที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ แต่คุณจะคาดคะเนการโจมตีของเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างไร คุณควรใช้อะไร อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด?

โชคดีที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือคุณ

เราได้รวบรวมบล็อกเทคโนโลยีเหตุการณ์ที่ดีที่สุด 10 บล็อกที่จะช่วยให้คุณเข้าใจโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และวิธีค้นหาว่าเทคโนโลยีใดจะทำงานได้ดีที่สุดสำหรับคุณ

เราทราบดีว่าการอ่านบล็อกสิบบล็อกต่อสัปดาห์นั้นค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลเมื่อคุณเป็นนักวางแผนงานที่มีงานยุ่ง นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่เพียงแค่แสดงรายชื่อ บล็อกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณเลือกบล็อกที่ดีที่สุดสำหรับคุณด้วย

คำถามสามข้อที่ต้องถามตัวเองก่อนตัดสินใจว่าคุณต้องการบล็อกใด:

  1. คุณเป็นสุดยอดเทคโนโลยีหรือไม่? คุณต้องการไฮไลท์หรือรายละเอียดเชิงลึกหรือไม่?
  2. คุณต้องอ่านบทความนานแค่ไหน? คุณมีเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาที ในการรับรายละเอียดหรือ 20-30 นาทีต่อบทความหรือไม่?
  3. คุณต้องการเน้นเรื่องประเภทใด? เครื่องมือใหม่ๆ เทรนด์ หรือบทวิจารณ์ผลิตภัณฑ์? หรืออาจจะเป็นส่วนผสมของทุกอย่าง?

5. การสร้างเครือข่ายและกำหนดการด้วยปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง

แอพมือถือของคุณจะเป็นศูนย์กลาง ความรู้ของผู้เข้าร่วม ปรับปรุงการเดินทางของผู้ชมของคุณโดยจับคู่พวกเขากับผู้เข้าร่วมที่มีใจเดียวกัน กำหนดการส่วนตัว และการอัปเดตตามเวลา จริงในกรณีที่เซสชันและผู้พูดทำงานล่าช้า แอพมือถือของคุณในปี 2566 ควรจะแจ้งการเปลี่ยนแปลง และเตือนความจำเพื่อเพิ่มการสื่อสารระหว่างคุณ ผู้สนับสนุน และผู้เข้าร่วมประชุม เชื่อมต่ออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยแอปมือถือที่เข้าใจผู้ชมของคุณ เช่นเดียวกับคุณ 

หากคุณกำลังจะจัดงานที่อยากใช้ระบบ QR Code ในกิจกรรมการจัดงานของคุณ สามารถ ติดต่อได้ที่ K&O Systems ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำ ระบบ QR Code ในงาน event มาแล้วมากมายอาทิ เช่น ระบบลงทะเบียนเข้างาน QR code จับรางวัล และ อื่นๆ ภายในงาน อีเว้นท์ และ งานแสดงสินค้าเข้าไปดูผลงานได้ที่นี่  Vveedigitalและสอบถามได้ที่เบอร์ 082-645-4469

Cloud vs On Premise : ข้อดีข้อเสียสำหรับ แพลตฟอร์มกิจกรรม อีเว้นท์

แพลตฟอร์มกิจกรรม อีเว้นท์ มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อลงทุนในเทคโนโลยีการจัดงาน ไม่เพียงแต่มีโซลูชันซอฟต์แวร์เหตุการณ์ที่ แตกต่างกัน เท่านั้น แต่ยังมีสภาพแวดล้อมการโฮสต์ที่แตกต่างกันให้พิจารณาด้วย ซอฟต์แวร์บนคลาวด์เป็นการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ซึ่งคงอยู่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม บริษัททั้งเล็กและใหญ่ล้วนมีประวัติเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ในสถานที่และมรดกตกทอดนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ หากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงาน คุณอาจสงสัยว่าตัวเลือกใดเหมาะสมกับองค์กรของคุณมากกว่ากัน ค้นหาคำอธิบายโดยละเอียดด้านล่างเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของระบบคลาวด์เทียบกับในสถานที่ที่เน้นไปที่แพลตฟอร์มกิจกรรม

1. ในองค์กรกับการปรับใช้และการควบคุมบนคลาวด์ 

โดยพื้นฐานแล้ว การมีซอฟต์แวร์ใน องค์กร หมายถึงการติดตั้งภายในเครื่องบนคอมพิวเตอร์ของคุณเอง ซอฟต์แวร์จะอยู่เบื้องหลังไฟร์วอลล์ของบริษัทของคุณ และจะขึ้นอยู่กับความจุของคอมพิวเตอร์หลักของคุณในการจัดเก็บข้อมูล การบำรุงรักษาซอฟต์แวร์และการบำรุงรักษาจะเป็นความรับผิดชอบของบริษัทของคุณ เช่นเดียวกับการสำรองข้อมูลและความสามารถในการเข้าถึง

ในการเข้าถึงซอฟต์แวร์ พนักงานจะต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายของบริษัทของคุณ โดยเข้าสู่ระบบจากคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ที่นั่น และอาจไม่สามารถเข้าถึงได้จากภายนอกสำนักงาน สินทรัพย์ในองค์กรบางส่วนยังคงใช้อยู่ทั่วโลกในปัจจุบันและมีค่ามาก

ในทางตรงกันข้ามซอฟต์แวร์บนคลาวด์จะโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้จำหน่ายบุคคลที่สาม การมีซอฟต์แวร์ที่จัดเก็บในลักษณะนี้ – ใน “ระบบคลาวด์” – หมายความว่าซอฟต์แวร์นั้นอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ของบุคคลภายนอก ซึ่งทำงานโดยอิสระจากคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง

ด้วยซอฟต์แวร์คลาวด์ งานด้านไอทีจำนวนมากเป็นความรับผิดชอบของผู้จำหน่าย การสำรองข้อมูล มาตรการรักษาความปลอดภัย ไฟร์วอลล์ การบำรุงรักษาขั้นพื้นฐานและเชิงลึก เป็นเรื่องที่ผู้จำหน่ายของคุณต้องกังวล นอกจากนี้ คลาวด์ยังมีความสามารถในการปรับขนาดและความเร็ว โดยประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่าซอฟต์แวร์ในองค์กร

2. การเปรียบเทียบความปลอดภัยบนคลาวด์กับในสถานที่

ดังที่คุณอาจสังเกตเห็นว่า ความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเมื่อเลือกระหว่างซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์กับซอฟต์แวร์ในองค์กร การมีไฟร์วอลล์ที่เป็นกรรมสิทธิ์และบริการด้านไอทีภายในองค์กรเป็นสิ่งจำเป็นจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ สิ่งนี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่จัดการกับข้อมูลหรือการดำเนินงานที่ละเอียดอ่อน หากซอฟต์แวร์ที่คุณกำลังพิจารณาจะจัดการโดยตรงกับเรื่องดังกล่าว การติดตั้งและบำรุงรักษาในสถานที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์และซอฟต์แวร์กำลังเติบโต ผู้ขายจึงสามารถนำเสนอการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวอย่างเช่น การใช้โปรโตคอล SSL/TLS การเข้ารหัสข้อมูลที่เหลือ และการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ การนำเสนอการลงชื่อสมัครใช้การรับรองความถูกต้องด้วยหลายปัจจัย และการนำนโยบายความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุมมาใช้เป็นตัวอย่างที่ดีเช่นกัน 

การเก็บข้อมูลของคุณไว้ที่อื่นก็ถือเป็นข้อได้เปรียบเช่นกัน นั่นเป็นเพราะทำให้มั่นใจได้ว่าการเข้าถึงคอมพิวเตอร์ทางกายภาพไม่ได้หมายถึงการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณเสมอไป  

3. ความแตกต่างของต้นทุนในองค์กรกับคลาวด์

การมีระบบในองค์กรหมายความว่าบริษัทได้พัฒนาระบบตั้งแต่เริ่มต้น หรือได้ซื้อใบอนุญาตถาวรจากผู้จำหน่ายบุคคลที่สาม นอกจากนี้ยังหมายความว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์ จำเป็นต้องมีการพัฒนาหรือซื้อเพิ่มเติม ดังนั้นซอฟต์แวร์ภายในองค์กรจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากและมีค่าใช้จ่ายสูง 

ยิ่งไปกว่านั้น ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น การมีซอฟต์แวร์ในองค์กร หมายความว่าบริการด้านไอทีส่วนใหญ่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์จะเป็นความรับผิดชอบของคุณ คุณจะต้องรับผิดชอบค่าใช้ จ่ายด้านความปลอดภัยทั้งหมด และมีทีมงานเฉพาะสำหรับการบำรุงรักษาและตรวจสอบซอฟต์แวร์ ในการทำงานนั้น บริษัทจำเป็นต้องมีทีมไอทีที่มีความสามารถและฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าว

ซอฟต์แวร์บน คลาวด์นั้นคุ้มค่า กว่าระบบในสถานที่มาก เนื่องจากเวลาส่วนใหญ่ซอฟต์แวร์นี้มีให้บริการ บริษัทต่างๆ จึงซื้อใบอนุญาตแบบไม่ผูกขาดเพื่อใช้งานโดยจ่ายค่าสมัครเล็กน้อย ค่าธรรมเนียมนี้อาจรวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์และการบำรุงรักษา แพลตฟอร์มกิจกรรม อีเว้นท์

นอกจากนี้ ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์มักเสนอ บริการเพิ่มเติมมากมาย ตัวอย่างเช่น การซ่อมฉุกเฉิน มาตรการรักษาความปลอดภัย การสนับสนุนผู้ใช้ และการดำเนินงาน เทคโนโลยีคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถใหม่ๆ ที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อน

4. การเข้าถึงและความคล่องตัว

นอกเหนือไปจากการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและความปลอดภัยบนระบบคลาวด์และการเปรียบเทียบในสถานที่แล้วความแตกต่างที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่เราควรทำคือการเข้าถึงซอฟต์แวร์ ในสถานที่โดยพื้นฐานแล้วหมายความว่าพนักงานจะต้องเข้าถึงระบบผ่านคอมพิวเตอร์และเครือข่ายของบริษัท

ข้อจำกัดทางกายภาพของระบบภายในองค์กรคือสาเหตุที่ Cloud SaaS กลายเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่สำคัญในปัจจุบัน เราสามารถเข้าถึง Cloud SaaS ได้ทุกที่ในโลก ตราบใดที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์ยังเป็นโซลูชันที่น่าสนใจมากขึ้นในการทำงานทางไกลในยุคโลกาภิวัตน์ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ล่าสุด สำนักงานมีความลื่นไหลมากขึ้น และข้อมูลจำเป็นต้องพร้อมใช้งานและกระจายอำนาจ การเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาจากคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรือโทรศัพท์มือถือเป็นข้อได้เปรียบสูงสุดที่ระบบคลาวด์มีเหนือซอฟต์แวร์ในองค์กร    

5. ในสถานที่กับคลาวด์สำหรับมืออาชีพ ด้านกิจกรรม

โอเค ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไรสำหรับมืออาชีพด้านการจัดงาน ข้อใดคือตัวเลือกที่ดีที่สุดระหว่างซอฟต์แวร์การจัดการเหตุการณ์ในองค์กรและบนคลาวด์ หลังจากพิจารณาจุดเปรียบเทียบแต่ละจุดข้างต้นอย่างละเอียดยิ่งขึ้น จะเห็นได้ชัดว่าซอฟต์แวร์เหตุการณ์บนคลาวด์มีข้อได้เปรียบมากกว่าระบบในสถานที่

อุตสาหกรรมการจัดงานเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง เป็นเรื่องปกติที่พนักงานจะทำงานนอกสถานที่หรือจากที่บ้าน สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับตัวได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์จึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการเหตุการณ์ เนื่องจากช่วยให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้หลายคนได้จากทุกที่ที่พวกเขาอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นส่วนหนึ่งของทีมการจัดการกิจกรรมระดับโลก

แผนกการจัดการกิจกรรมที่ทำงานจากภายในธุรกิจและองค์กรขนาดใหญ่มักไม่มีความเชี่ยวชาญด้านไอทีมากนัก ในทางกลับกัน ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์บนคลาวด์มีทีมนักพัฒนาที่มีทักษะโดยเฉพาะ พวกเขามีเครื่องมือและความรู้ทั้งหมดที่จำเป็นในการให้การสนับสนุนและการบำรุงรักษาที่เหมาะสม

ต้นทุนเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อตัดสินใจระหว่างซอฟต์แวร์การจัดการเหตุการณ์บนระบบคลาวด์และในสถานที่ ตามที่กล่าวไว้ที่นี่ ระบบคลาวด์มีความคุ้มค่ามากกว่าทางเลือกในสถานที่ ยิ่งไปกว่านั้น ซอฟต์แวร์บนคลาวด์จะช่วยประหยัดทรัพยากรและเวลาให้กับบริษัท ซึ่งหมายถึงการประหยัดเงิน แพลตฟอร์มกิจกรรมบนเว็บที่ชาญฉลาด ทันสมัย ​​และมีประสิทธิภาพสามารถนำการเปลี่ยนแปลงที่ร่ำรวยและโอกาสใหม่ๆ มาสู่บริษัทของคุณ ซึ่งจะมากกว่าการชดเชยค่าใช้จ่ายใหม่ใดๆ

หากคุณกำลังจะจัดงานที่อยากใช้ระบบ QR Code ในกิจกรรมการจัดงานของคุณ สามารถ ติดต่อได้ที่ K&O Systems ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำ ระบบ QR Code ในงาน event มาแล้วมากมายอาทิ เช่น ระบบลงทะเบียนเข้างาน QR code จับรางวัล และ อื่นๆ ภายในงาน อีเว้นท์ และ งานแสดงสินค้าเข้าไปดูผลงานได้ที่นี่  Vveedigitalและสอบถามได้ที่เบอร์ 082-645-4469

การตลาดเชิงอีเว้นท์ : ประโยชน์ แนวคิด และตัวอย่าง

การตลาดเชิงอีเว้นท์ หากคุณกำลังประสบปัญหาในการสร้างอำนาจให้กับแบรนด์และเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ มีโอกาสที่คุณจะพลาดหนึ่งในกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการตลาด การวิจัยสถิติการจัดงานล่าสุดพบว่า 83% ของแบรนด์ที่ลงทุนในการตลาดกิจกรรมสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างสม่ำเสมอ ในคู่มือนี้ เราจะพูดถึงความสำคัญของการตลาดเชิงกิจกรรม และวิธีที่คุณจะได้ประโยชน์จากการตลาดเชิงกิจกรรม นอกจากนี้เรายังจะให้แนวคิดและตัวอย่างการตลาดเชิงกิจกรรมแก่คุณ

1. การตลาดเชิงกิจกรรมคืออะไร?

การตลาดเชิงกิจกรรมเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างธุรกิจและลูกค้า ด้วยการโฮสต์และโปรโมตกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้ชมของคุณ คุณสามารถเพิ่มอำนาจของแบรนด์และสร้างโอกาสในการขาย นอกจากนี้ คุณสามารถใช้กิจกรรมเพื่อเผยแพร่การรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์และค่านิยมองค์กรของคุณ โดยรวมแล้ว คุณจะได้รับประโยชน์จากการประชาสัมพันธ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณในขณะที่สร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้ชมของคุณ

การใช้กิจกรรมเป็นเครื่องมือในการโปรโมตไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ได้รับความนิยมมากขึ้นหลังการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากการโต้ตอบแบบตัวต่อตัวถูกจำกัดในช่วงเวลานั้น ธุรกิจจำนวนมากจึงเริ่มทดลองใช้กิจกรรมออนไลน์ น่าแปลกที่การจัดอีเวนต์ทำให้เข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น 

2. การตลาดเชิงกิจกรรมมีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจของคุณ

องค์กรของคุณจะได้รับประโยชน์มากมายจากการนำ กลยุทธ์การ ตลาดเชิงกิจกรรม มาใช้ ต่อไปนี้เป็นรายการประโยชน์ที่กิจกรรมทางการตลาดสามารถนำมาสู่ธุรกิจของคุณได้:

สร้างแบรนด์ผู้มีอำนาจ 

อำนาจตราสินค้าเกี่ยวข้องกับการที่ลูกค้าไว้วางใจบริษัท และขอบเขตที่พวกเขาเห็นว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาด ตามความเป็นจริงแล้ว หลายๆ บริษัทเป็นที่รู้จักจากชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตนเท่านั้น เช่น Band-Aid, Vanish หรือ Pepsi แนวคิดนี้ไม่เพียงแสดงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการของตนเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกระตือรือร้นในชุมชนอีกด้วย การตลาดเชิงอีเว้นท์

วิธีหนึ่งในการใช้การตลาดเชิงกิจกรรมเพื่อสร้างอำนาจของแบรนด์คือการโปรโมตกิจกรรมที่กำลังจะมีขึ้นด้วยจดหมายข่าวและบนโซเชียลมีเดีย คุณสามารถทำได้โดยการเข้าร่วมกิจกรรมและโต้ตอบโดยตรงกับลูกค้าของคุณ 

การมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ดีขึ้น

การ ตลาดเชิงกิจกรรมสามารถช่วยให้คุณมีส่วนร่วมกับผู้ชมและลูกค้าของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้แบบทดสอบ แบบสอบถาม หรือแบบฟอร์มเพื่อโต้ตอบและมีส่วนร่วมกับผู้ชมของคุณทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเหตุการณ์ ด้วยการให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน พวกเขาจะรู้สึกสนใจกิจกรรมของคุณมากขึ้น และเชื่อมโยงกับองค์กรของคุณมากขึ้น

คุณยังสามารถมอบสิ่งของเพื่อระลึกถึงคุณ เช่น ของขวัญหรือของที่ระลึกเมื่อพวกเขาแวะที่บูธของคุณ ด้วยวิธีนี้ ผู้ชมของคุณจะนึกถึงคุณทุกครั้งที่พวกเขาต้องการบริการหรือทักษะเฉพาะที่คุณมอบให้

สร้างโอกาสทางธุรกิจ

ประโยชน์ อีกประการของการตลาดเชิงกิจกรรมคือสามารถช่วยคุณสร้างโอกาสในการขายและโอกาสทางธุรกิจ 

ตัวอย่างเช่น ด้วยการใช้แพลตฟอร์มการตลาดสำหรับกิจกรรมคุณสามารถอนุญาตให้ผู้คนลงทะเบียนออนไลน์สำหรับกิจกรรมของคุณ จากนั้นจึงรวบรวมข้อมูลติดต่อของพวกเขา คุณยังสามารถใช้คำถามที่กำหนดเองในแบบฟอร์มการจองออนไลน์ของคุณเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น คุณสามารถถามผู้คนเกี่ยวกับความชอบ ความต้องการ หรือเหตุผลในการเข้าร่วมกิจกรรมของคุณได้

หลังจากนั้น คุณสามารถตรวจทานและวิเคราะห์คำตอบเพื่อทำความเข้าใจว่าผู้เข้าร่วมคนใดมีแนวโน้มที่จะเป็นลูกค้ามากกว่ากัน ดังนั้นการตลาดเชิงกิจกรรมจึงสามารถเพิ่มคุณภาพของลีดของคุณได้ ซึ่งนำไปสู่ข้อเสนอที่ดีกว่า

รับเนื้อหาบล็อก

การเตรียมแผนการตลาดสำหรับกิจกรรมและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสามารถเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้! ขณะวางแผน โปรโมต โฮสต์ และเข้าร่วมกิจกรรม คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อใหม่ๆ เพื่อพูดคุยในบล็อกของคุณได้ สิ่งนี้จะช่วยคุณประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากคุณจะสามารถเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องในบล็อกของคุณสำหรับผู้ที่สนใจในบริการของคุณ

ปรับปรุง SEO

มากกว่าการสร้างบล็อกโพสต์ คุณยังสามารถใช้การตลาดเชิงกิจกรรมเพื่อปรับปรุงการเข้าชมเว็บไซต์ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ นั่นเป็นเพราะยิ่งคุณมีเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น และผู้คนโต้ตอบกับเนื้อหาของคุณมากขึ้น คำหลักที่เกี่ยวข้องก็จะยิ่งได้รับการจัดอันดับ

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณจัดการและนำเสนอข้อมูลกิจกรรมของคุณทางออนไลน์ได้ดีเพียงใด ความคิดที่ดีคือการรวมซอฟต์แวร์การจัดการกิจกรรมสำหรับกิจกรรมขององค์กรไว้ในเว็บไซต์ของคุณ 

3.แนวคิดการตลาดเชิงกิจกรรมและตัวอย่างเพื่อส่งเสริมธุรกิจของคุณ

มีกิจกรรมหลายประเภทที่คุณสามารถใช้เพื่อโฆษณาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณ ส่วนใหญ่สามารถนำผลประโยชน์มาให้คุณก่อนที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีกระบวนการวางแผนงาน ที่ดี ต่อไปนี้เป็นการตลาดเชิงอีเว้นท์ แนวคิดและตัวอย่างการตลาดเชิงกิจกรรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ:

การประชุม

การประชุมเป็นการประชุมขนาดใหญ่เพื่อหารือเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ การประชุมทางธุรกิจมักจะจัดขึ้นสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันและมีความสนใจเหมือนกัน ในกรณีนี้ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและผู้มาใหม่รวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด ฟังสุนทรพจน์ และอภิปรายหัวข้อสำคัญ

การประชุมทั่วไปมีสี่ประเภท ได้แก่ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การประชุมสัมมนา การสัมมนา และโต๊ะกลม พวกเขาสามารถให้ความบันเทิงแก่ผู้เข้าร่วม ตลอดจนแบ่งปันความรู้ที่สำคัญและสอนทักษะในด้านต่างๆ

นิทรรศการ

อีกตัวอย่างหนึ่งของการตลาดเชิงกิจกรรมคืองานแสดงสินค้าหรือที่เรียกว่างานแสดงสินค้า งานแสดงสินค้าเป็นงานที่บริษัทต่าง ๆ จัดแสดงผลิตภัณฑ์และข้อเสนอใหม่ ๆ

โดยปกติงานแสดงสินค้าจะรวบรวมบริษัทต่างๆ มากมายในบูธต่างๆ ภายในโถงแสดงสินค้าขนาดใหญ่ ที่นั่น บริษัทสามารถสาธิตผลิตภัณฑ์และจัดเวิร์กช็อป โต๊ะกลม และแม้แต่การประชุมแบบตัวต่อตัวกับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ โดยสรุป ทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อแสดงความรู้ในอุตสาหกรรมและความถูกต้องของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้คุณสร้างการเชื่อมต่อกับบริษัทอื่นๆ ในงานแสดงสินค้า

เปิดตัวปาร์ตี้ / งานเฉลิมฉลอง

การจัดปาร์ตี้เปิดตัวหรืองานเฉลิมฉลองเป็นแนวคิดการตลาดเชิงกิจกรรม ที่ยอดเยี่ยม เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จขององค์กร การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งพบปะกับพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญ คุณสามารถเชิญลูกค้าคนสำคัญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วมงานปาร์ตี้เปิดตัวและงานเฉลิมฉลองของบริษัทของคุณ

ตัวอย่างการตลาดเชิงกิจกรรมนี้มอบโอกาสในการสร้างการเชื่อมต่อที่มีความหมายในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ไม่จำเป็นต้องกล่าวสุนทรพจน์ใหญ่โตหรือเขียนรายงานการวิจัยมากมาย แม้ว่าการเตรียมการก่อนหน้านี้จะช่วยให้คุณจัดงานได้ดีที่สุด

การสัมมนาผ่านเว็บ

การสัมมนาผ่านเว็บเป็นงานนำเสนอออนไลน์ขนาดเล็กที่โฮสต์โดยบริษัทหรือหุ้นส่วน ในการสัมมนาผ่านเว็บ บริษัทจะเลือกหัวข้อที่จะพูดคุยและเลือกวิทยากรที่เหมาะสม 

ข้อดีอย่างหนึ่งของการสัมมนาผ่านเว็บคือคุณสามารถใช้องค์ประกอบภาพได้มากกว่าการสัมมนาด้วยตนเอง เนื่องจากกิจกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นทางออนไลน์ ข้อดีอีกอย่างคือคุณสามารถบันทึกและเพิ่มลงในเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของคุณได้อย่างง่ายดาย ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้รับการบันทึกไว้สำหรับการสาธิตและการอ้างอิงในอนาคตเสมอ

เดินหรือวิ่ง 5k

การเดินและวิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน คุณสามารถใช้แนวคิดการตลาดเชิงกิจกรรม นี้ เพื่อกระจายข้อความเกี่ยวกับค่านิยมองค์กรของคุณ และเชิญชวนผู้คนให้โต้ตอบกับแบรนด์ของคุณ

เนื่องจากกิจกรรมประเภทนี้ทำงานได้ดีมากสำหรับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร คุณจึงสามารถร่วมมือกันสร้างงานวิ่งตามธีมและแสดงผลิตภัณฑ์ของคุณตามท้องถนน คุณยังสามารถใช้การตลาดกิจกรรม ประเภทนี้ เพื่อระดมทุนเพื่อการกุศลในนามบริษัทของคุณ

หากคุณกำลังจะจัดงานที่อยากใช้ระบบ QR Code ในกิจกรรมการจัดงานของคุณ สามารถ ติดต่อได้ที่ K&O Systems ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำ ระบบ QR Code ในงาน event มาแล้วมากมายอาทิ เช่น ระบบลงทะเบียนเข้างาน QR code จับรางวัล และ อื่นๆ ภายในงาน อีเว้นท์ และ งานแสดงสินค้าเข้าไปดูผลงานได้ที่นี่  Vveedigitalและสอบถามได้ที่เบอร์ 082-645-4469

10 ไอเดียสนุก ๆ สำหรับ ความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กร

ความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กร คุณต้องการแนวคิดเกี่ยวกับกิจกรรมความบันเทิงขององค์กรหรือไม่? บางทีคุณอาจกำลังวางแผน การประชุมขององค์กร การประชุม หรือการพักผ่อนทางธุรกิจที่กำลังจะมาถึง และต้องการทราบวิธีสร้างความบันเทิงให้พนักงาน และแขกของคุณ ไม่ว่าในกรณีใด เรามี 10 ไอเดียสนุกๆ สำหรับความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กรที่อาจให้แรงบันดาลใจที่คุณต้องการ มาเริ่มกันเลย!

1. ทำไมคุณควรเพิ่ม ความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กร

กิจกรรมขององค์กรมักใช้เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของบริษัท และให้รางวัลแก่พนักงาน แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดที่พวกเขาจะสนุกไม่ได้เช่นกัน 

หากคุณกำลังจัดกิจกรรมขององค์กร คุณอาจใช้เป็นโอกาสในการแสดงทักษะของคุณในฐานะนักวางแผนงาน ไม่ว่าคุณจะจัดงานขององค์กรตามธีม หรือไม่ก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการทำให้งานของคุณโดดเด่นกว่าใครและเพิ่มความสนุกสนานให้กับงานก็คือการใช้แนวคิดความบันเทิงในการจัดงานของบริษัทที่ไม่เหมือนใคร  

2. 10 ไอเดียสนุก ๆ ความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กร

ดังนั้นเราจึงรวบรวมไอเดียสนุก ๆ 10 ข้อเพื่อความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กรเพื่อช่วยคุณวางแผนงานครั้งต่อไป กิจกรรมเหล่านี้จะทำให้พนักงาน และแขกของคุณมีส่วนร่วมและสนุกสนาน ตั้งแต่เกมไปจนถึงการแข่งขันไปจนถึงคืนทายปัญหา อ่านข้อมูลเพิ่มเติม!

วงดนตรีสด

วงดนตรีสดเป็นวิธีที่ดีในการมอบความบันเทิงในงานของคุณ คุณสามารถเก็บของประเภทเดิมหรือเลือกอย่างอื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้แขกรู้สึกอย่างไร 

หากคุณกำลังมองหาเพลงที่ฟังดูสบายๆ นักกีตาร์โซโลอาจเป็นเพียงตัวเลือกนั้น วงดนตรีแจ๊สหรือควินเต็ตเหมาะสำหรับงานเลี้ยงค็อกเทล ที่แขกมาสังสรรค์และสังสรรค์ วงดนตรีสิบชิ้นจะปลุกเร้างานด้วยการเต้นรำและร้องเพลง

คาราโอเกะ

คาราโอเกะเป็นรูปแบบความบันเทิงยอดนิยม สำหรับกิจกรรมขององค์กร อาจเป็นวิธีที่ดี ในการทำลายน้ำแข็งและดึงดูดผู้คนบนฟลอร์เต้นรำเพื่อความสนุกสนาน! การร้องคาราโอเกะยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงพลังเสียงของคุณ และสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่นด้วยช่วงเสียงของคุณ 

นอกจากนี้ ราคาไม่แพงและเรียบง่าย คุณแค่ต้องการไมโครโฟนสองสามตัว เพลงคาราโอเกะบางเพลงบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ของคุณ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

นักแสดงตลก

ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ความบันเทิงในงานขององค์กร นักแสดงตลกจะทำให้ผู้ชม หัวเราะไปกับเรื่องตลกและเรื่องราวต่างๆ นักแสดงตลกสามารถเป็นวิธีที่ดีในการทำลา น้ำแข็งในตอนเริ่มต้นของงาน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานหรือบรรเทาเบาสมอง ในช่วงที่เข้มข้นของรายการ ความตลกเป็นอมตะ ดังนั้นคุณสามารถคาดหวังการแสดงที่ดีได้เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในโลกปัจจุบัน 

ชั้นเรียนทำอาหาร

หากคุณกำลังมองหาไอเดียกิจกรรมบริษัทสนุกๆ การจัดชั้นเรียนทำอาหารก็เหมาะเป็นอย่างยิ่ง แขกจะได้เพลิดเพลินกับอาหารว่างและเครื่องดื่มในขณะที่เรียนรู้วิธีการทำอาหาร จานโปรดของพวกเขา และหากงานเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมหรือเวิร์กช็อปขนาดใหญ่ ผู้เข้าร่วมจะได้ทักษะใหม่ๆ ที่พวกเขาสามารถนำไปใช้ในครัวของตนเองได้

แนวคิดกิจกรรมกีฬาเพื่อ ความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กร

แนวคิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมสำหรับความบันเทิงขององค์กรคืองานกีฬา กิจกรรมเหล่านี้อาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่เกมฟุตบอลแบบเก็บตัวไปจนถึงทีมที่เป็นทางการ เช่น เกมบาสเก็ตบอล 5 ต่อ 5 การแข่งขันกีฬาเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทั้งบริษัทและพนักงานเพราะพวกเขาเปิดโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัสกับลักษณะการแข่งขันของพวกเขาในขณะเดียวกันก็ช่วยให้พวกเขาได้ระบายอารมณ์

หลายๆ ครั้ง ทีมจะแข่งขันกันเองในเกมประเภทนี้ แต่ถ้าคุณต้องการประสบการณ์ที่สนุกยิ่งขึ้น ทำไมไม่ลองสร้างทัวร์นาเมนต์ที่มีทีมต่างๆ แข่งขันกันล่ะ

ความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กร เหตุการณ์เรื่องไม่สำคัญแบบโต้ตอบ

ในการสร้างเรื่องไม่สำคัญที่สนุกสนานและโต้ตอบได้เพื่อเป็นความบันเทิงสำหรับกิจกรรมของบริษัท คุณจะต้องคิดคำถามเรื่องไม่สำคัญที่สร้างสรรค์ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทของคุณ อาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่การตั้งชื่อ CEO ของบริษัทไปจนถึงการตั้งชื่อส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งของคุณ 

คุณยังสามารถเลือกหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสในข่าว หรือจะเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วม เมื่อคุณเลือกหัวข้อได้แล้ว ให้เขียนคำถาม 10 ข้อเกี่ยวกับหัวข้อนั้น จากนั้นให้เวลาแต่ละทีม 5 นาทีในการตอบคำถามให้ได้มากที่สุด ทีมสามารถทำงานร่วมกันในการตอบคำถามหากต้องการหรือพยายามทีละคำถาม 

หลังจากนั้น ให้ใครสักคนอ่านคำตอบที่ถูกต้องในขณะที่นำเสนอคะแนนให้แต่ละทีมโดยพิจารณาจากจำนวนที่ตอบถูก ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดชนะ! คุณยังสามารถมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเพื่อให้มันน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น

โฟโต้บูธ

ตู้ถ่ายรูปเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสนุกสนานกับแขก ของคุณและทำให้พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กัน ผู้ชมของคุณสามารถใช้พวกเขาเพื่อทำท่าโง่ ๆ ได้ทุกประเภท นอกจากนี้ บูธถ่ายภาพยังมีอุปกรณ์ประกอบฉากมากมายที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับงาน

ห้องหลบหนี

เกม Escape Room เป็นกิจกรรมแบบโต้ตอบที่ไม่เหมือนใคร ผู้เข้าร่วมจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อไขปริศนาและหลบหนีก่อนที่เวลาจะหมดลง นี่เป็นแนวคิดด้านความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิจกรรมขององค์กร นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการช่วยให้พนักงานผูกพันและสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม

การแข่งขัน

หากคุณกำลังจัดกิจกรรมขององค์กร ทำไมไม่จัดการแข่งขัน ระหว่างผู้เข้าร่วม นี่เป็นความคิดสร้างสรรค์ ที่จะทำให้ผู้คนมี ส่วนร่วมและสนุกสนาน ตัวอย่างของการแข่งขันกระชับมิตร ได้แก่ การแข่งขัน การล่าสมบัติ การแสดงศิลปะ และการประกวดภาพถ่าย 

การแข่งขันยังเป็นวิธีที่ดีในการส่งเสริมวัฒนธรรม และค่านิยมของบริษัท คุณสามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม แนวคิดสำหรับความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กรเหล่านี้รับประกันได้ว่าจะโดนใจแขกของคุณ!

ละครสัตว์

หากคุณกำลังมองหาไอเดียความบันเทิง สำหรับกิจกรรมของบริษัท ปาร์ตี้ธีมละครสัตว์มักเป็นที่นิยมเสมอ! คุณสามารถค้นหานักแสดงและผู้ขายในพื้นที่ของคุณ เพื่อเริ่มงานปาร์ตี้ ตั้งแต่นักมายากลและนักเล่นกลไปจนถึงตัวตลกและนักกายกรรม มีนักแสดงมากมายให้เลือก เกมที่มีธีมต่างๆ เช่น ฮูลาฮูป ลิมโบ และสัตว์บอลลูนจะทำให้แขกเพลิดเพลินตลอดทั้งคืน

3. การเลือกความบันเทิงที่เหมาะสมสำหรับความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กร

งานที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับความบันเทิงด้วย ด้วยตัวเลือกมากมายสำหรับแนวคิดกิจกรรมองค์กรที่สนุกสนาน จะต้องมีบางอย่างที่ใช้ได้กับบริษัทของคุณ 

พิจารณาสิ่งที่คุณต้องการให้ผู้เข้าร่วมได้รับจากกิจกรรมของคุณ จากนั้นเลือกรูปแบบของความบันเทิงที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ มีวิธีต่างๆ มากมายในการสร้างความบันเทิงในกิจกรรมขององค์กร ขึ้นอยู่กับคุณว่าความบันเทิงประเภทใดจะตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีที่สุดและทำให้ทุกคนมีความสุข เราหวังว่ารายการแนวคิดด้านความบันเทิงสำหรับกิจกรรมองค์กรของเราจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณวางแผนกิจกรรมครั้งต่อไป

หากคุณกำลังจะจัดงานที่อยากใช้ระบบ QR Code ในกิจกรรมการจัดงานของคุณ สามารถ ติดต่อได้ที่ K&O Systems ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำ ระบบ QR Code ในงาน event มาแล้วมากมายอาทิ เช่น ระบบลงทะเบียนเข้างาน QR code จับรางวัล และ อื่นๆ ภายในงาน อีเว้นท์ และ งานแสดงสินค้าเข้าไปดูผลงานได้ที่นี่  Vveedigitalและสอบถามได้ที่เบอร์ 082-645-4469

7 เคล็ดลับในการเขียน อีเมลแจ้งเตือนอีเว้นท์ ที่สมบูรณ์แบบสำหรับกิจกรรม

อีเมลแจ้งเตือนอีเว้นท์ หากคุณคิดว่างานของคุณกับผู้เข้าร่วมจะเสร็จสิ้นเมื่อพวกเขาซื้อตั๋วหรือลงทะเบียนสำหรับงานของคุณ ให้คิดใหม่อีกครั้ง แม้ว่าการลงทะเบียนจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการมามากเพียงใด แต่อาจมีหลายสาเหตุที่พวกเขาไม่สามารถมาหรือเพียงแค่ลืม ฟังดูไม่จริง แต่จริง ๆ แล้วคนเรามักจะลืมของสำคัญอย่างงานสำคัญ ๆ เมื่อพวกเขาเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อที่จะได้ไปร่วมงาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ชมของคุณปรากฏตัวพร้อมกับเคล็ดลับ 7 ข้อของเราในการเขียนอีเมลเตือนความจำที่สมบูรณ์แบบสำหรับกิจกรรม!

การแจ้งเตือนทางอีเมลคืออะไร?

การแจ้งเตือนทางอีเมลคือข้อความอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้จัดกิจกรรมส่งถึงผู้ชมก่อนกิจกรรม อีเมลนี้มักจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับงาน เช่น วันที่ เวลา ชื่องาน สิ่งที่ต้องนำมาและวิธีเตรียมตัว อาจดูเหมือนเป็นการฝึกปฏิบัติง่ายๆ แต่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมากเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ และกระตุ้นให้พวกเขาเข้าร่วม

ทำไมต้องเขียนอีเมลแจ้งเตือน

แม้ว่าคุณจะมองว่ามันเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี แต่การเขียนอีเมลเตือนความจำก็มีประโยชน์มาก ความจริงก็คือ การเขียนอีเมลง่ายๆ ด้วยตัวช่วยด้านภาพที่ดี และส่งในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมจดจำกิจกรรมของคุณได้ ด้วยวิธีนี้พวกเขาไม่น่าจะพลาด ดังนั้น ในฐานะผู้จัดงาน คุณสามารถทำเงินได้มากขึ้นและรับข้อเสนอแนะเชิงบวกเกี่ยวกับงานของคุณมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น การเขียนอีเมลเตือนความจำสำหรับกิจกรรมของคุณจะช่วยให้คุณแบ่งปันโปรแกรมที่น่าทึ่งและสนุกสนานทั้งหมดที่คุณเตรียมไว้สำหรับวันนั้น 

โดยปกติแล้ว ผู้จัดงานจะส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลซ้ำๆ ในวันที่กำหนดกลยุทธ์เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทะเบียนจะเข้าร่วม อาจเป็นเวลาสองสัปดาห์ก่อนงานของคุณ หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งวัน และก่อนหน้าวันงาน วิธีการของคุณจะกำหนดความถี่และวันที่

เราได้รวบรวมเคล็ดลับและเครื่องมือดีๆ ไว้ให้คุณเพื่อเตรียมแผนการแจ้งเตือนทางอีเมล อ่านเคล็ดลับ 7 ข้อเกี่ยวกับวิธีเขียนอีเมลเตือนความจำสำหรับกิจกรรมต่อไป

วิธีสร้างการแจ้งเตือนทางอีเมลที่มีประสิทธิภาพสำหรับกิจกรรมของคุณ

หากต้องการสร้างอีเมลแจ้งเตือนกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพซึ่งผู้ชมของคุณยินดีที่จะได้รับ มีขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถปฏิบัติตามได้ ดูรายการเคล็ดลับ 7 ข้อด้านล่างเพื่อเขียนอีเมลเตือนความจำที่สมบูรณ์แบบสำหรับกิจกรรม!

1. รู้จักผู้ชมของคุณ

หากคุณรู้ล่วงหน้าว่าผู้ชมมีพฤติกรรมอย่างไรและคาดหวังอะไรจากงานของคุณ คุณจะรู้วิธีเข้าหาพวกเขาอย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังจัดกิจกรรมการประชุมระดับมืออาชีพ คุณรู้ว่าผู้คนจะกล่าวถึงคุณอย่างสุภาพและเป็นเชิงเทคนิคมากขึ้น และคุณสามารถทำได้เช่นเดียวกันในการเตือนความจำทางอีเมลของคุณ เคล็ดลับนี้ยังรวมถึงอายุ ประเภท และความชอบที่อาจเปลี่ยนวิธีที่ผู้ชมเฉพาะชอบที่จะสื่อสาร ใส่ใจ!

2. สร้างบรรทัดเรื่องที่ได้รับความสนใจ

หัวเรื่องเป็นหนึ่งในสิ่งแรกที่ผู้คนเห็นเมื่อพวกเขาเปิดอีเมล ต้องดึงดูดความสนใจทันที ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวเรื่องของคุณสั้นและจับใจ เคล็ดลับที่ดีคือการใช้คำเช่น “อย่าพลาด” และ “บันทึกวันที่” ในชื่อเรื่อง เพื่อเตือนผู้ชมว่าวันที่จัดงานของคุณใกล้เข้ามาแล้ว

3. รวมรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรม

ความคิดที่ดีอีกประการหนึ่งคือการใช้การแจ้งเตือนทางอีเมลเพื่อบอกผู้คนว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ไหน คุณยังสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อแจ้งรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับงาน เช่น ราคาบัตร การจัดเตรียม และทิศทางของสถานที่ 

อย่าลืมใส่ลิงก์ไปยังหน้ากิจกรรมบนเว็บไซต์ของคุณ และขอให้ผู้อื่นแชร์กิจกรรมกับผู้อื่น แนวทางปฏิบัติทั้งหมดเหล่านี้สามารถช่วยคุณรวบรวมผู้ชมที่กว้างขึ้นและแม้แต่นำผู้คนใหม่ๆ มาที่กิจกรรมของคุณ

หากคุณจะส่งการแจ้งเตือนก่อนที่กิจกรรมจะเริ่มต้น อย่าลืมใช้น้ำเสียงที่เหมาะสม ผู้ที่ได้รับอีเมลเหล่านี้มักจะยุ่งกับสิ่งอื่น ดังนั้นควรส่งข้อความของคุณให้สั้นและเป็นมิตร

4. รวมสัมผัสส่วนบุคคล

สัมผัสส่วนบุคคลไปไกลเมื่อต้องเตือนผู้คนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น หากคุณกำลังเขียนข้อความเตือนความจำทางอีเมลถึงคนที่คุณไม่รู้จัก อาจเป็นเรื่องยากที่จะสร้างความสนิทสนม แต่คุณสามารถเขียนในแบบของคุณเองได้เสมอ โดยแสดงให้ผู้คนเห็นว่าคุณใช้เวลาและความพยายามในการเตรียมการเตือนความจำด้วยตัวเอง และนี่นำเราไปสู่เคล็ดลับต่อไปของเรา อีเมลแจ้งเตือนอีเว้นท์

5. ใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจที่ดี

คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าอีเมลของคุณมีคำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) ซึ่งหมายความว่าคุณต้องบอกคนอื่นว่าพวกเขาควรทำอะไรต่อไปหลังจากอ่านข้อความของคุณ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณต้องให้บางอย่างแก่พวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถไปที่หน้ากิจกรรมได้โดยตรง

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของ CTA สำหรับการเตือนความจำสำหรับอีเมลกิจกรรม:

  • อย่าพลาด
  • อย่าพลาดโอกาส
  • โอกาสสุดท้าย
  • อย่าลืม
  • อย่าลืมตอบรับคำเชิญ
  • อย่าลืมซื้อตั๋วของคุณ

6. เจาะจงเกี่ยวกับเวลาที่คุณจะส่งการแจ้งเตือน

ผู้ที่ได้รับอีเมลแจ้งเตือนสำหรับกิจกรรมมักจะตอบกลับหรือปรากฏตัวบ่อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับ ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณส่งออกไปในเวลาที่เหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าวันที่ที่ดีที่สุดในการส่งการแจ้งเตือนนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการของคุณ แต่นี่คือแนวคิดกำหนดการง่ายๆ:

14 วันก่อนวันงาน:ข้อมูลและข่าวสารของงาน รวมถึงข้อมูลตั๋วและจำนวนที่ยังว่างอยู่

7 วันก่อนงาน:อีเมลแจ้งเตือนที่เป็นมิตรว่างานกำลังจะมาถึง แต่ผู้คนยังสามารถซื้อตั๋วในนาทีสุดท้ายและเตรียมพร้อมสำหรับมันได้

3 วันก่อนวันงาน:แจ้งเตือนทางอีเมลพร้อมไฮไลต์ข้อมูลกิจกรรม เวลา และวันที่ คุณยังสามารถระบุเส้นทางไปยังสถานที่หรือตอบคำถามที่พบบ่อยในนาทีสุดท้าย ส่งข้อความที่ชัดเจนถึงผู้เข้าร่วมงานว่า“ห้ามพลาด!”

ก่อนวันงาน 1 วัน : แจ้งว่างานมีวันถัดไป เรียกร้องความสนใจไปที่บรรทัดแรกโดยใช้คำเช่น“กำลังจะมา!”

วันจัดงาน:คุณสามารถแจ้งให้ผู้เข้าร่วมทราบว่างานจะเริ่มในอีกไม่กี่ชั่วโมง และวิธีเตรียมตัวสำหรับการจราจรหรือความไม่สะดวกอื่นๆ

7. พิสูจน์อักษรเตือนความจำของคุณ

เป็นแนวปฏิบัติที่ดีในการอ่านข้อความและข้อความของคุณซ้ำอีกครั้งเพื่อดูว่าคุณสามารถปรับปรุงอะไรได้บ้าง ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเรื่องปกติในหมู่นักเขียนเนื้อหาและผู้เชี่ยวชาญที่คุณสามารถรวมไว้ในชีวิตประจำวันได้ หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงหรือแม้แต่วันเดียวที่คุณเขียนอีเมลเตือนความจำสำหรับกิจกรรม ให้อ่านอีกครั้งด้วยหัวที่โล่ง มันจะช่วยให้คุณรวมสัมผัสและรายละเอียดที่ดีที่คุณลืมไปโดยสิ้นเชิงเมื่อคุณมีสมาธิกับงานมากเกินไป

การใช้เทมเพลตเตือนเหตุการณ์อัตโนมัติตามเวลาที่กำหนด

ผู้ที่ต้องการทราบวิธีเขียนอีเมลเตือนความจำสำหรับกิจกรรมมักจะต้องการสร้างเทมเพลตที่สามารถส่งให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้ การทำงานกับเทมเพลตอีเมลไม่เพียงแต่มีความชาญฉลาดเท่านั้น แต่ยังมอบโซลูชันที่ปรับขนาดได้มากขึ้นสำหรับทุกธุรกิจอีกด้วย

แม้ในเวลาที่คุณต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัวและสื่อสารโดยตรงกับผู้ชม การเขียนอีเมลเตือนความจำสำหรับแต่ละกิจกรรมหรือผู้เข้าร่วมทีละคนก็ไม่สะดวก นั่นเป็นเหตุผลที่ระบบการจัดการกิจกรรม ที่ดีที่สุด มีเทมเพลตที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อระบุผู้ชมของคุณได้อย่างง่ายดาย

ซอฟต์แวร์จัดการเหตุการณ์ทันเวลาเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบที่จะช่วยให้คุณจัดกิจกรรมและสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ นอกเหนือจากฟังก์ชันการเผยแพร่กิจกรรม การส่งเสริมการขาย และการออกตั๋วที่น่าทึ่งทั้งหมดแล้ว มันยังช่วยให้คุณดำเนินการเวิร์กโฟลว์อีเมลแจ้งเตือนกิจกรรมของคุณโดยอัตโนมัติอีกด้วย คุณสามารถใช้เทมเพลตอีเมลกิจกรรม ของเรา หรือสร้างของคุณเองก็ได้

หากคุณกำลังจะจัดงานที่อยากใช้ระบบ QR Code ในกิจกรรมการจัดงานของคุณ สามารถ ติดต่อได้ที่ K&O Systems ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำ ระบบ QR Code ในงาน event มาแล้วมากมายอาทิ เช่น ระบบลงทะเบียนเข้างาน QR code จับรางวัล และ อื่นๆ ภายในงาน อีเว้นท์ และ งานแสดงสินค้าเข้าไปดูผลงานได้ที่นี่  Vveedigitalและสอบถามได้ที่เบอร์ 082-645-4469

5 event ปฏิทินออนไลน์ฟรี ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณในปี 2023

event ปฏิทินออนไลน์ฟรี ความยั่งยืนเป็นคำสำหรับปี 2023 ซึ่งหมายถึงการทำมากขึ้นโดยใช้น้อยลง ตั้งแต่การลดการใช้ทรัพยากร ไปจนถึงการใช้แอปไม่กี่แอปแทนที่จะเป็นหลายๆ แอป เป้าหมายที่เรียบง่ายนั้นเป็นจริง และนี่ก็เป็นจริงสำหรับปฏิทินด้วย คุณไม่จำเป็นต้องซื้อปฏิทินกระดาษในแต่ละปีอีกต่อไปเพื่อจัดการการนัดหมาย กิจกรรม และอีเวนต์ของคุณ มีทางเลือกดิจิทัลมากมายให้เลือก! ตรวจสอบรายชื่อปฏิทินออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด 5 อันดับสำหรับธุรกิจของคุณในปี 2566

ทำไมคุณจึงควรใช้ปฏิทินออนไลน์สำหรับธุรกิจ

หากคุณใช้ปฏิทินออนไลน์เพื่อติดตามการประชุมและกิจกรรมอยู่แล้ว คุณจะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์เพียงใด ปฏิทินออนไลน์ไม่ได้ใช้สำหรับบันทึกวันที่พิเศษเท่านั้น เช่น วันหยุดและวันเกิด ด้วยแอปพลิเคชันปฏิทินออนไลน์ที่เหมาะสม คุณจะมีเครื่องมือจัดการเวลาและผู้ช่วยเสมือนที่สมบูรณ์แบบ

หากคุณมีปัญหาในการจัดการกำหนดการหรือกำหนดการของทีม ปฏิทินออนไลน์สามารถช่วยให้คุณจัดระเบียบได้ พวกเขาทำงานเหมือนกับนักวางแผน แต่มีเทคโนโลยีมากกว่ามาก พวกเขายังสามารถส่งการแจ้งเตือนเหตุการณ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเตือนเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนมาถึงทันเวลา สำหรับคนที่มีงานยุ่ง การมีปฏิทินออนไลน์มีความสำคัญต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามกำหนดเวลาทุกวัน

หากคุณยังใหม่กับการใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ หรือเพียงแค่ต้องการปฏิทินขั้นพื้นฐาน คุณอาจต้องการเริ่มต้นด้วยปฏิทินออนไลน์ฟรี เพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าโปรแกรมวางแผนปฏิทินออนไลน์ฟรีใดที่เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด เราได้ตรวจสอบตัวเลือกทั้งหมดแล้ว ดูรายการปฏิทินออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด 5 อันดับสำหรับธุรกิจในปี 2566 ด้านล่าง

5 ปฏิทินออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจในปี 2023

การจัดการตารางเวลาของคุณต้องใช้ปฏิทินกระดาษแบบธรรมดา คุณจะจดการนัดหมาย วันครบกำหนด และงานสังสรรค์ทั้งหมดที่คุณจะเข้าร่วมในเดือนหน้า ทุกวันนี้ ปฏิทินออนไลน์กลายเป็นวิธีที่นิยมมากขึ้นในการติดตามตารางงานที่ยุ่งของใครก็ตาม นี่คือรายการปฏิทินฟรีออนไลน์ที่ดีที่สุด 5 อันดับสำหรับธุรกิจในปี 2566

1. ปฏิทิน Outlook

ปฏิทิน Microsoft Outlook ให้คุณเลือกจำนวนวันที่คุณต้องการดูพร้อมกันในมุมมองต่างๆ ขณะนี้คุณสามารถเลือกมุมมองสำหรับวันในสัปดาห์ สัปดาห์ วันและเดือนได้ มันง่ายและไม่ซับซ้อนและช่วยให้คุณจัดตารางเวลาและเพิ่มกิจกรรมได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสร้างปฏิทินออนไลน์ฟรีหลายรายการเพื่อใช้ส่วนตัว แบ่งปันกับเพื่อนและแม้แต่กับเพื่อนร่วมงาน คุณสามารถซิงค์ปฏิทิน Outlook กับปฏิทินออนไลน์อื่นๆ และเก็บบันทึกกิจกรรมที่คุณต้องการเข้าร่วมได้ หากคุณต้องการจัดการปฏิทินออนไลน์ของเพื่อน คุณสามารถทำได้ด้วยการแบ่งปันการเข้าถึงของคุณ

โดยรวมแล้วมันเป็นเครื่องมือทำปฏิทินออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมฟรีจากแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว!

2. Google ปฏิทิน

Google ไม่ต้องการคำแนะนำใช่ไหม Chrome เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก และปลั๊กอินก็มีประโยชน์เสมอ เมื่อมีบัญชี Google (Gmail) คุณจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือของ Google

ได้ฟรีโดยตรงผ่านเบราว์เซอร์ของคุณ ซึ่งรวมถึงแชท เอกสาร ชีต และแม้แต่ปฏิทิน

Google ปฏิทินใช้กันอย่างแพร่หลายร่วมกับ Google Meetings ซึ่งเป็นเครื่องมือการประชุม

ทางเว็บที่ยอดเยี่ยม คุณสมบัติที่ดีคือคุณสามารถตั้งการเตือนได้ กิจกรรมจะปรากฏในปฏิทินของคุณและคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมครั้งต่อไป

ปฏิทินออนไลน์ฟรีจาก Google ใช้งานง่ายและเป็นธรรมชาติ คุณสามารถสร้างกิจกรรมและงานของคุณได้โดยตรงในปฏิทิน แชร์ได้มากและออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณสื่อสารกับทีมได้ดียิ่งขึ้น คุณยังเข้าถึงได้ผ่านแท็บใน Google Chat ซึ่งช่วยให้คุณไม่พลาดการติดต่อกับทีมขณะดูการนัดหมายครั้งต่อไป

3. ปฏิทินปฏิทิน

Calendly เป็นหนึ่งในปฏิทินออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ เป็นบริการจัดตารางเวลาปฏิทิน ซึ่งช่วยให้คุณจัดการเวลาและกำหนดเวลานัดหมายได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง คุณสามารถเข้าถึงประเภทเหตุการณ์และแบ่งปันความพร้อมของคุณผ่านโซเชียลมีเดีย

ในฐานะปฏิทินขององค์กร สามารถใช้ Calendly เพื่อจัดการผู้ใช้ในองค์กรของคุณและรวมศูนย์พวกเขาได้ พวกเขามีปฏิทินออนไลน์ฟรีและตัวเลือกแบบชำระเงินบางส่วน นอกจากนี้ยังเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติตามข้อกำหนดและความปลอดภัยทั้งหมดเพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เก็บไว้ของคุณ

อย่างน้อยที่สุด Calendly ได้รับการออกแบบมาสำหรับทีมที่จัดการพบปะในระดับต่างๆ ในฐานะที่เป็นซอฟต์แวร์ปฏิทินขององค์กร คุณสามารถใช้สำหรับการฝึกอบรม การสรรหา และจองการประชุมได้โดยอัตโนมัติ คุณยังสามารถซิงค์กับบริการอื่นๆ เช่น Outlook, Google Calendar และ Office 365 Calendar วิธีนี้ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจองการประชุมซ้ำซ้อน event ปฏิทินออนไลน์ฟรี

4. วันจันทร์

Monday เป็นซอฟต์แวร์ที่นิยมกันอย่างแพร่หลายสำหรับการจัดการองค์กรโดยทั่วไป คุณสามารถใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจทั้งหมดของคุณ คุณสามารถสร้างกราฟเพื่อนำเสนอในการประชุมและจัดเก็บข้อมูลสำคัญระหว่างแผนกต่างๆ ของบริษัทของคุณ ตอนนี้วันจันทร์ก็นับด้วยแอพซอฟต์แวร์ปฏิทินของตัวเอง

ปฏิทินออนไลน์ฟรีวันจันทร์นั้นเรียบง่ายและใช้งานง่าย คุณสามารถจัดระเบียบงานและตารางเวลาส่วนตัวได้ในแอปปฏิทินเพียงแอปเดียว และรับการแจ้งเตือนที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละแอป

ข้อดีอีกอย่างคือคุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งที่ใดก็ได้ ปฏิทินวันจันทร์ทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ของคุณ และส่งการแจ้งเตือนไปยังเดสก์ท็อปของคุณ คุณยังสามารถตรวจสอบปฏิทินออนไลน์ฟรีได้โดยใช้อุปกรณ์มือถือ

5. ปฏิทินกิจกรรมทันเวลา

ปฏิทินกิจกรรมทันเวลาคือแพลตฟอร์มจัดการกิจกรรมและโปรโมชันบนเว็บที่สมบูรณ์แบบ ช่วยให้คุณไม่เพียงสร้างกิจกรรมในปฏิทินออนไลน์ แต่ยังเผยแพร่บนเว็บไซต์ของคุณเอง คุณสามารถใช้บนเว็บไซต์ WordPress ของคุณเป็นปลั๊กอินหรือฝังบนเว็บไซต์ใดก็ได้ เนื่องจากได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับ SEOด้วยปฏิทินแบบทันเวลา คุณจึงได้รับคลิกและปริมาณการเข้าชมไซต์ของคุณมากขึ้น

ปฏิทินออนไลน์ฟรีทันเวลามีส่วนต่อประสานที่ใช้งานง่ายพร้อมเครื่องมือพื้นฐานในการจัดการและโปรโมตกิจกรรม มีมุมมองปฏิทินและวิดเจ็ต มากมาย ให้คุณเลือก คุณสามารถสร้างกิจกรรมประเภทใดก็ได้ รวมถึงกิจกรรมหนึ่งวัน หลายวัน และกิจกรรมที่เกิดซ้ำ และทำซ้ำ หรือโคลนกิจกรรมได้อย่างง่ายดาย คุณยังสามารถเพิ่มรูปภาพวิดีโอ และตารางลงในโพสต์กิจกรรมของคุณ ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ชมของคุณ

นอกจากนี้ยัง สามารถปรับแต่งได้อย่างสมบูรณ์ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีทักษะการออกแบบเว็บหรือการเขียนโค้ด หากคุณรวบรวมการลงทะเบียนหรือขายตั๋วกิจกรรมผ่านปฏิทิน ของคุณ คุณสามารถสร้างอีเมลและการแจ้งเตือนเพื่อส่งไปยังผู้เข้าร่วมของคุณได้

หากคุณกำลังจะจัดงานที่อยากใช้ระบบ QR Code ในกิจกรรมการจัดงานของคุณ สามารถ ติดต่อได้ที่ K&O Systems ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำ ระบบ QR Code ในงาน event มาแล้วมากมายอาทิ เช่น ระบบลงทะเบียนเข้างาน QR code จับรางวัล และ อื่นๆ ภายในงาน อีเว้นท์ และ งานแสดงสินค้าเข้าไปดูผลงานได้ที่นี่  Vveedigitalและสอบถามได้ที่เบอร์ 082-645-4469