ลงทะเบียนเข้างาน ด้วยการสแกน QR Code ดีเช่นไร ? ในตอนนี้ออแกไนเซอร์ หรือ คนที่อยู่ในแวดวงการจัดงาน ไม่มีผู้ใดไม่รู้การสมัครสมาชิกเข้างานผ่านลิ้งค์สมัครสมาชิก หรือการสแกน QR Code
แม้กระนั้นการสมัครสมาชิกเข้างานสุดล้ำสมัยนี้ชอบถูกละเลยเพียงแค่ด้วยเหตุว่าเพียงแค่ผู้จัดงานกลัวความยุ่งยากสำหรับในการทำระบบ ราคาก็บางทีอาจจะแพงหูฉีกอีกต่างหาก แม้กระนั้นอันที่จริงนั้น ผู้ใดจะไปทราบว่าการสมัครสมาชิกเข้างานด้วย QR Code เนี่ยมีขั้นตอนที่แสนจะง่าย มัธยัสถ์ แถมมีสาระต่อยอดให้กับผู้จัดงานได้อย่างมากมาย ซึ่งกรรมวิธีการสมัครสมาชิกเข้างานด้วยเจ้า QR Code สิ่งที่ผู้จัดงานจำต้องตระเตรียมสำคัญๆนั้นมีแค่เพียง 2 ขั้นตอน !?
ตระเตรียมข้อมูลที่คุณต้องการที่จะให้ลูกค้าสมัครสมาชิกผ่าน QR Code อย่างเช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล วางแบบหรือการออกแบบโลโก้ของงานคุณ ที่อยากที่จะให้แสดงในหน้าอีเมลตอบรับแล้วก็หน้าสมัครสมาชิก เพียง 2 ขั้นตอน แต่ว่าผลดีที่คุณได้รับกลับอย่างใหญ่โตอย่างที่คุณไม่คาดคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น
คุณได้ข้อมูลของผู้มาร่วมงานที่มีคุณภาพแล้วก็ครบสมบูรณ์ ความนำสมัยแล้วก็ภาพลักษณ์ ที่สะท้อนถึงหน่วยงานของคุณอย่างเห็นได้ชัด (ลองคิดดูคุณให้แขกของคุณมายืนสมัครสมาชิกด้วยปากกา ดินสอ กับ ภาพที่เพียงแค่โชว์ QR Code แล้วเดินเข้างานงามๆสิ) คุณสามารถรู้ยอดเพื่อนร่วมงานได้แบบ Real-time ผ่านระบบข้างหลังบ้าน คุณสามารถพินิจพิจารณาลูกค้าได้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น ต่อยอดแนวทางการทำการตลาดแบบพรั่งพร้อม การสแกน QR Code ช่วยทำให้การเข้างานของผู้มาร่วมงานเร็วทันใจด้านใน 1-5 วินาที ด้วยเหตุนี้คุณจะมอง ไม่เห็นภาพการต่อแถวยาวๆที่มีคนอออยู่ข้างหน้างาน หรือ เสียงพร่ำบ่นจากเพื่อนร่วมงานหัวข้อการต่อแถวสมัครสมาชิกเข้างาน ไม่วุ่นวาย ช่วยทำให้คุณดำเนินงานง่าย สบายในทุกๆครั้งที่มีการจัดงาน ราคาย่อมเยา คุ้ม ลดปริมาณและก็ทุนการใช้คนอย่างมีคุณภาพ แล้วก็อย่าลืมว่าระบบสมัครสมาชิก ที่ดีจะต้องทำให้งานของคุณ เร็วทันใจ แม่น รวมทั้งมีคุณภาพ สร้างความตรึงใจให้กับเพื่อนร่วมงานอย่างเหนือระดับ การจะจัดงานอีเวนต์ขึ้นซักงานนั้น ควรต้องผ่านขั้นตอนการคิดต่างๆล้นหลาม ซึ่งขั้นตอนการกลุ่มนี้ บางทีอาจสามารถเป็นตัวชี้วัดสำหรับการงานถึงคุณภาพในงานนั้นๆ
คอนเซ็ปต์ งบประมาณรวมทั้งเจ้าหน้าที่
การจัดงานอีเวนต์นั้น จำเป็นต้องมีการคิดรวมทั้งคิดแผนถึงวิถีทางสำหรับการจัดงาน รวมถึงคอนเซ็ปต์งาน
เพื่อคนที่มาออกบูธ มีแนวความคิดไปในทำนองเดียวกัน ยิ่งกว่านั้นยังมีอีกสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กัน ลงทะเบียนเข้างาน
มันก็คือ การคิดและการคำนวณงบประมาณที่จะจำต้องใช้ในงานนั้นๆ รวมถึงการจัดหาบุคลากร ควรต้องใช้ในงาน พร้อมด้วยการแจกแจงหน้าในจุดต่างๆอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
ผู้เข้าร่วมแล้วก็เข้าชมงาน
อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้จัดงานอีเวนต์จำเป็นที่จะต้องเตรียมก็คือ การถ้าเกิดลุ่มวัตถุประสงค์ของงาน ไม่ใช่แต่ว่าเฉพาะการกล่าวหาผู้ที่จะมาเข้าชมงานเป็นใครกันแน่บ้าง แม้กระนั้นยังต้องพิจารณาถึงคนที่จะมาร่วมแสดงในงานอีเวนต์นั้นๆด้วย ซึ่งเหตุผลของการที่จะจะต้องนึกถึงสิ่งพวกนี้เพราะ ถ้าพวกเราไม่สามารถที่จะระบุขอบเขตของผู้เข้าร่วมแสดงในงานและก็ผู้เข้าชมงาน ก็จะไม่สามารถที่จะประเมินพื้นที่ที่ใช้จัดงาน งบประมาณ เจ้าหน้าที่ที่จะจำต้องใช้ รวมถึงการเตรียมพร้อมที่นาๆประการตามจำนวนผู้เข้าร่วมแสดงแล้วก็ผู้เข้าชมงานนั่นเอง
การออกแบบพื้นที่แสดง พิธีการเปิด แล้วก็ไฮไลท์ข้างในงาน เมื่อคอนเซ็ปต์ของงานเสร็จเป็นที่เป็นระเบียบแล้ว ก็มาถึงกระบวนสำหรับเพื่อการคิด วางแบบส่วนพื้นที่แสดง เนื้อหาพิธีการเปิดและก็กิจกรรมบนเวที รวมถึงการคิดจุดไฮไลท์ในงานที่จะเป็นตัวเย้ายวนใจผู้เข้าชมงานให้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
การโฆษณางาน
ไม่ว่าจะเป็นงานที่จัดขึ้นสำหรับการแสดงสินค้า งานสัมมนา หรืองานประชุมสัมมนาอะไรก็ตามย่อมควรมีการโฆษณาให้กลุ่มเป้าหมาย รับทราบถึงงานที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการบอกคอนเซ็ปต์รวมทั้งไฮไลท์ของงานให้แก่คนที่พอใจ เพื่อเป็นการยั่วยวนใจให้มีปริมาณผู้เข้าร่วมงานให้ได้ตรงตามสิ่งที่ต้องการของผู้จัดงาน
ด้านขวากล่าวครั้งละคนยากจนครบทุกคน ซึ่งการจัดงานอย่างงี้จะก่อให้เพื่อนร่วมงานให้ความเห็น แนวความคิด การวิเคราะห์ได้อย่างมาก
การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop)
เป็นกระบวนการสัมมนาที่ต้องการที่จะให้สมาชิกได้รับวิชาความรู้ในแง่ทฤษฎีรวมทั้งปฎิบัติไปพร้อมเพียงกัน ซึ่งการจัดการประชุมชนิดนี้จะเน้นย้ำให้เพื่อนร่วมงานนำเอาวิชาความรู้ไปใช้มากยิ่งกว่าการฟัง กำเนิดคุณประโยชน์รวมทั้งใช้ได้จริงในสายอาชีพ อาทิเช่น การประชุมสัมมนาเรื่องวิธีการใช้ระบบสมัครสมาชิกหรือศึกษาการผลิต QR Code นอกเหนือจากการที่จะฟังอธิบายแล้วจะเพื่อนร่วมงานจำต้องทำกิจกรรม Workshop เพื่อสามารถสร้างแบบฟอร์มการสมัครสมาชิกรวมทั้งสร้าง QR Code ได้ด้วยตัวเอง ฯลฯ
ด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีทางการสื่อสารในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้น มีผู้คนมากมายเชื่อว่างานEvent หรือExhibitionกำลังจะกลายเป็นของตกยุคหรือมีความสำคัญต่อการตลาดของบริษัทน้อยลงเรื่อยๆ แต่คุณรู้ไหมว่างานEvent หรือ Exhibitionกำลังมีความนิยมและประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากสิ่งที่มันมอบให้ระหว่าง exhibitorsและกลุ่มเป้าหมายซึ่งก็คือปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในขณะที่มีคนพูดว่าเทคโนโลยีคือแนวทางแห่งอนาคต นี่คือเหตุผล5ข้อที่ว่าทำไมงานEvent หรือ Exhibitionยังคงอยู่ได้แน่น่อน
- ธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์ส่วนใหญ่นั้นต้องการและเลือกที่จะมีปฏิสัมพันธ์กันแบบต่อหน้ามากกว่า ถ้าผมกำลังมองหาสินค้าและมีคำถามที่อยากจะถามล่ะก็ ผมอยากจะถามกับคนที่ให้คำตอบตรงกับความต้องการมากกว่าต้องไปดูแบบฟอร์มคู่มือออนไลน์เอาเอง แถมยังต้องการให้ทำการสาธิตให้ดูด้วย ถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของวัฒนธรรมและเทคโนโลยีในปัจจุบันจะยืนยันว่ามีวิธีทางการตลาดที่กว่าสำหรับสินค้าหรือการทำธุรกิจก็ตาม แต่ก็ไม่มีมาอะไรมาทดแทนคุณค่าของการปฏิสัมพันธ์แบบต่อหน้าได้อยู่ดี
- Social media ทดแทนการพบปะของจริงไม่ได้ Social mediaสามารถเพิ่มความรู้สึกของการพบปะต่อหน้าได้แต่ไม่มีทางมาแทนที่ได้ คุณสามารถ tweetและโพสอัพเดตบนเฟสบุคหรือทำลิ้งเท่าไรก็ทำได้ แต่ก็นั่นแหละธรรมชาติของมนุษย์ยังคงต้องการติดต่อแบบพบปะตัวจริงเพื่อความสบายใจอยู่ดี หน้าเว็บSocial mediaถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีคุรค่ามากสำหรับการโปรโมท ติดต่อสื่อสารและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลบางส่วน ในเวลาก่อน,ระหว่าง,และหลังงานที่จัด จริงๆแล้วผมก็สนับสนุนให้ใช้มันในการตลาดของธุรกิจของคุณหรอกนะ เพียงแต่ว่าระหว่างการคุยกับผู้อื่นผ่านการโพสกับการพูดคุยแบบต่อหน้ามันให้ความรู้สึกคนละแบบเลยและอาจส่งผลต่อการขายด้วย
- ต้องเห็นกับตาถึงจะเชื่อ คุณเคยดูสตาร์วอร์ผ่านทางคลื่นวิทยุไหม? ทำไม่ได้อยู่แล้ว! เพราะต้องมีภาพด้วยถึงจะเรียกว่าดู! นี่ก็ถือเป็นสัจธรรมสำหรับการสาธิตให้ดูหรือขายสินค้าเลยและยิ่งสำหรับคนที่คุณไม่เคยเห็นหน้าด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่ คุณไม่สามารถสื่ออารมณ์ทั้งหมดหรือสร้างความเชื่อใจ มั่นใจ และความน่าเชื่อถือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเดียวได้ คุณอาจจะสามารถเป็น blogger มืออาชีพได้ ส่ง social media อัพเดต และแชร์ความรู้ของคุณได้ แต่ผู้รับที่อยู่ปลายทางนั้นจะรู้สึกขาดองค์ประกอบสำคัญส่วนบุคคลไป ภาษากายของคุณ โทนเสียงของคุณ และส่วนสำคัญอีกหลายอย่างที่คุณไม่สามารถส่งผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้ กลุ่มเป้าหมายของคุณอาจจะต้องการ “จับต้องและรับรู้ความรู้สึก” ของสินค้าของคุณและชมการสาธิตการใช้งานแบบต่อหน้าเลย เพราะการจับต้องผ่านหน้าจอมันทำให้รู้สึกได้ยากน่ะนะ
- งานEventหรือExhibitionสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ กลุ่มเป้าหมายของคุณนั้นจำเป็นต้องเรียนรู้ว่าทำไมเขาต้องธุรกิจกับคุณ จากประสบการณ์ของเรานั้นสิ่งที่จัดแสดงต้องสามารถบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ได้และยังจำเป็นต้องมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายด้วย แต่กุญแจสำคัญไม่ได้มีแค่สิ่งที่จัดแสดงเท่านั้นแต่ยังรวมถึงพนักงานประจำบูธด้วย พวกเขามีหน้าที่คอยปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่ดูมีแววและถ้าไปได้สวยล่ะก็กลุ่มเป้าหมายที่มาเยี่ยมเยียนบูธจะอยากติดต่อกับพวกเขามากขึ้น
- คุณจะมีผู้ชมที่ถูกจับมารวมกันอยู่ในงานเลย การส่งข้อความหรืออีเมล์อาจมีดีเลย์ได้ หรือคนที่คุณอยากติดต่อด้วยอาจลาพักร้อนอยู่ทำให้ข้อความของคุณส่งไปไม่ถูกที่ถูกเวลาทำให้ปฏิสัมพันธ์ได้ยาก การถูกรบกวนอาจทำให้ข้อความของคุณดู “เบาบาง” ไปเลยซึ่งนั่นทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณเอาคุณไว้ทีหลัง แต่ถ้า “พูดใส่หน้า” พวกเขาในงานล่ะก็จะทำให้ดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ง่ายขึ้น จะมีที่ไหนที่จะรวมพวกกลุ่มผู้ซื้อจำนวนมากหรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลสำหรับคุณมาไว้ที่เดียวอีกล่ะ?
การสมัครสมาชิกเข้างานแล้วก็การเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมงาน
การจัดงานอีเวนต์จำเป็นที่จะต้องมีการลงทะบียนเข้างานทั้งยังต้นแบบออนไลน์เพื่อการสมัครสมาชิกล่วงหน้าก่อนถึงวันงาน หรือการสมัครสมาชิกที่หน้างาน ซึ่งผู้จัดงานแต่ละงานก็จะมีวิธีการสมัครสมาชิกที่ต่างๆนาๆ ตามความปรารถนาของผู้จัดงาน ซึ่งการสมัครสมาชิกร่วมงานนี้ เป็นอีกหัวใจหลักสำหรับการจัดงานอีเวนต์ เหตุเพราะเป็นการจัดเก็บข้อมูลของผู้เข้าร่วมงานเอาไว้ เพื่อนำไปพินิจพิจารณา ประมวลผลการจัดงานถัดไป เพราะฉะนั้นเพื่อความสบายของผู้จัดงานจะต้องเลือกขั้นตอนการสมัครสมาชิกที่ไม่ยุ่งยากต่อการเก็บและก็พินิจพิจารณาข้อมูลนั่นเอง
หากคุณกำลังจะจัดงานที่อยากใช้ระบบ QR Code ในกิจกรรมการจัดงานของคุณ สามารถ ติดต่อได้ที่ K&O Systems ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำ ระบบ QR Code ในงาน event มาแล้วมากมายอาทิ เช่น ระบบลงทะเบียนเข้างาน QR code จับรางวัล และ อื่นๆ ภายในงาน อีเว้นท์ และ งานแสดงสินค้าเข้าไปดูผลงานได้ที่นี่ Vveedigital และสอบถามได้ที่เบอร์ 082-645-4469